3. ตลาดยา – ตอนที่ 27
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 25 กุมภาพันธ์ 2567
- Tweet
เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของไทย อย่างปตท. จำกัด (มหาชน) ก็ขยับเข้าไปในกลุ่มธุรกิจยา (Drug) และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food supplement) ผ่านการเปิดตัว “อินโนบิก นูทริชั่น” (Innobic Nutrition) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอินโนบิก (เอเซีย) [Innobic (Asia)]
กลุ่มบริษัทดังกล่าว ประกาศตัวว่าจะเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาด (Market share) ในธุรกิจยา, ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical supplies), และธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ (Health food) พร้อมกับเป้าหมายใหญ่ ที่จะเป็นบริษัท Life Science (วิทยาศาสตร์ชีวภาพ) ชั้นนำในภูมิภาค (Region)
ความเคลื่อนไหว (Movement) ดังกล่าว สะท้อน (Reflect) ให้เห็นว่า แม้กระทั่งรายใหญ่ที่สายธุรกิจ (Business line) ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย (Irrelevant) อาจมองเห็นอะไรบางอย่างในธุรกิจยา และธุรกิจเชิงการแพทย์ในประเทศไทย อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอัตราการเติบโตของสายธุรกิจ
สำหรับเหตุผลที่สำคัญ อาจไม่ใช่เพียงเพราะประเทศไทย กำลังก้าวขาเข้าสู่ “สังคมสูงอายุระดับสูงสุด” (Completely-Aged Society)" ในอีก 7 -8 ปีข้างหน้า (ปี พ.ศ. 2573) แต่หลังจากวิกฤติโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) ก็จะเห็นว่า ผู้คนเริ่มตระหนักถึงสุขภาพ (Health) ในมิติการดูแล (Care), การป้องกัน (Prevention) และการใส่ใจ (Concern) มากขึ้น
ข้อสำคัญ พร้อมจ่ายเงิน (Affordability) กับส่วนนี้มากขึ้น ซึ่งยังไม่นับรวมปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ (Air pollution) เช่น ฝุ่น PM 2.5 (PM = Particulate matter), ควันบุหรี่ (Cigarette smoke), ควันจากท่อไอเสีย (Exhaust emission) ส่งผลต่อสุขภาพของคนเรา อีกทั้งแนวโน้ม (Trend) การเจ็บป่วยด้วยโรคทั้งเรื้อรัง (Chronic) และไม่เรื้อรังของคนไทย
หน่วยงานวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิด เผยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2565 มูลค่าจำหน่ายยาในประเทศ (Domestic) มีแนวโน้มเติบโต 4.5 ถึง 5.0% จากปี พ.ศ. 2564 ผลจากความต้องการ (Demand) บริโภคยาที่เพิ่มขึ้น ขณะเมื่อปี พ.ศ. 2564 มีการจดทะเบียน (Registration) จัดตั้งธุรกิจหมวดยา (เภสัชภัณฑ์) และ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เพิ่มขึ้นจาก 994 รายในปี พ.ศ. 2562 เป็น 1,792 สะท้อนความน่าสนใจของอุตสาหกรรมนี้อย่างมาก
ขณะเดียวกัน ในมุมนักลงทุน ก็ชี้ว่า ธุรกิจยาขนาดใหญ่มาก มีโอกาสเติบโตสูง (Growth opportunity) และมีศักยภาพสูง (Potential) ในการลงทุนทั้งขนาดใหญ่ และการลงทุนรายย่อย พบผลประกอบการ (Performance) บริษัทยา อยู่ในแนวโน้ม (Trend) ขาขึ้นแทบทุกบริษัท
สาเหตุก็คือ คนมีเงินมากขึ้น (Wealthy) และ อายุยืนมากขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องดูแลรักษาและใส่ใจเรื่องสุขภาพร่างกายของตนเองมากขึ้น ก่อเกิดความต้องการยาทั้งในเชิงรักษาโรค (Curative) และป้องกัน (Preventive) เช่น ยาที่เป็นวิตามินเสริม รวมไปถึง พวกกลุ่มเวชสำอาง (Cosmeceuticals)
แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญ ก็คือ การที่ภาคการท่องเที่ยว (Tourism) ของไทย กำลังกลับมา “ผงาด” หลังโควิด-19 เมื่อย้อนสถิติ ช่วงปี พ.ศ. 2562 ประเทศไทยติดอันดับเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก เป็นรองแค่เมืองใหญ่ เช่น ลอนดอน, ฮ่องกง, และญี่ปุ่น ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 40 ล้านคน
เป็นที่คาดการณ์กันว่า การท่องเที่ยวที่จะกลับมาพุ่งแรงนับหลังจากนี้ของไทย จะมาพร้อมๆ กับโอกาส ปูทางในแง่การแพทย์ การสาธารณสุข (Public health) ของประเทศไทย ที่สร้างชื่อไว้กระฉ่อน เมื่อครั้งเรารับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีเยี่ยม จนกลายเป็นที่ยอมรับระดับสากล (International acceptance)
แหล่งข้อมูล –