10. ตลาดประกันสุขภาพ – ตอนที่ 62
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 22 กรกฎาคม 2568
- Tweet

ความร่วมมือกับ BDMS ในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอ (Offering) ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ภายใต้ชื่อ Exclusive Care @BDMS เน้นเจาะ (Penetrate) กลุ่มลูกค้าระดับกลาง (Middle-class), คนทำงาน (Workforce), พนักงานบริษัท (Corporate employees), และเป็นผู้ที่ต้องการรับบริการ (Recipient) ทางการแพทย์ที่ดีที่สุด จากกลุ่มโรงพยาบาลในเครือบีดีเอ็มเอส ตังเป้าสร้างเบี้ยประกัน (Premium) 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
กรมธรรม์ประกันสุขภาพ (Health insurance policy) ครอบคลุม (Cover) การรักษาพยาบาล มีให้เลือก 2 แผน ด้วยวงเงินคุ้มครอง 1.5 ล้าน และ 5 ล้านบาทต่อปี จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง (Actual payment) ค่าห้องพักสูงสุด 7,000 บาทต่อวัน (สำหรับแผน 5 ล้านบาท) คืนเบี้ยประกันภัย (Dividend) ทุกปี 10% กรณีไม่มีการเคลม มีส่วนลดกรมธรรม์ (Policy discount) แบบครอบครัว 10% (เมื่อซื้อตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป) สามารถต่ออายุได้ตลอดชีพ (Life-long renewal)
การดำเนินกลยุทธ์การขาย (Sales strategy) บริษัทจะเน้นการใช้ประโยชน์ (Benefit) จากทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยตั้งเป้าเก็บรายชื่อผู้มุ่งหวัง (Prospects) ผ่านการเปิดซุ้ม (Booth) ณ โรงพยาบาล และพื้นที่อื่นๆ ของบริษัท
ส่วนการยิงโฆษณา (Advertising) ออนไลน์ ที่จะส่งลูกค้าเข้ามากรอก (Fill in) ข้อมูลในระบบ จากนั้นทีมงานขายตรง (Direct sales) จะติดตามต่อโดยการปิดการขาย (Sales closing) ผ่านโทรศัพท์กับลูกค้า อีกทั้งยังจะมีทีมงานขายตรง ติดต่อเข้าถึงลูกค้าที่เป็นผู้มุ่งหวัง (Prospects) ผ่านโทรศัพท์โดยตรง (Direct phone call) และปิดการขายอีกทางหนึ่งด้วย
ในอีกมิติหนึ่ง Open Market Onlin จั่วหัวว่า "ประกันสุขภาพและการผูกขาด" ในตลาดประกันสุขภาพของสหรัฐอเมริกา เมื่อชาวอเมริกันซื้อประกันสุขภาพ พวกเขามักจะพบว่า มีตัวเลือก (Alternative) น้อยลงเรื่อยๆ ในบางรัฐ เช่น อลาบามา บริษัทประกันภัยเพียงแห่งเดียว มีการผูกขาด (Monopoly) เกือบทั้งหมด ในพื้นที่เขตเมือง (Urban) ทั้งหมดครึ่งหนึ่ง มีเพียง บริษัทประกันสุขภาพ 2 แห่งเท่านั้น ที่ครองส่วนแบ่งตลาด (Market share) ได้ 2 ใน 3
ความเข้มข้น (Intensity) ในระดับสูงนี้ เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว การศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ใน American Economics Review ในปี ค.ศ. 2012 พบว่าสัดส่วนของชุมชน (Community) ในสหรัฐอเมริกาที่ตลาดประกันสุขภาพมี "ความเข้มข้นสูง" โดยใช้มาตรฐานที่ใช้โดยหน่วยงานกำกับดูแล (Regulatory) การผูกขาด (Monopoly) ของรัฐบาลกลาง
โดยเพิ่มขึ้นจาก 68% ในปี ค.ศ. 1998 เป็น 99% ในปี ค.ศ. 2006 การศึกษาวิจัยเดียวกันนี้ สรุป (Summarize) ว่าความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น นี้ทำให้เบี้ยประกันเพิ่มขึ้น 7% ในช่วงเวลาดังกล่าว
ปัจจุบัน การผูกขาดขยาย (Expand) ไปสู่ประกันสุขภาพทุกรูปแบบ ตั้งแต่กรมธรรม์ที่ซื้อโดยบุคคลทั่วไปในตลาดแลกเปลี่ยน (“Obamacare”) ไปจนถึงแผนประกันกลุ่ม (Group insurance) ที่ซื้อโดยนายจ้าง (Employers) และแผนประกันสุขภาพ Medicare Advantage ที่ซื้อโดยผู้เกษียณอายุ (Retiree)
แหล่งข้อมูล –
- https://marketeeronline.co/archives/352488 [2025, July 21].
- https://www.openmarketsinstitute.org/learn/health-insurance-monopoly [2025, July 21].
- https://en.wikipedia.org/wiki/Health_insurance_marketplace [2025, July 21].