12.ตลาดคลินิกเสริมความงาม-ชะลอวัย – ตอนที่ 37

ปัจจุบัน เดอะคลีนิกค์ (The Klinique) ให้บริการมากว่า 14 ปี ครอบคลุมทั้งสุขภาพ (Health), ความงาม (Beauty), และสุขภาวะสมบูรณ์ (Wellness) ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง (Skin), ดูแลรูปร่าง (Shape) และ ศัลยกรรม (Surgery) ชะลอวัย ภายใต้ 3 ยี่ห้อ (Brand) อันได้แก่

  1. The Klinique ดูแลเรื่องผิว, ชะลอวัย, ดูแลรูปร่าง โดยจับตลาดกลุ่มตลาดหรูหรา (Luxury)
  2. The Klinique Surgery Center ดูแลเรื่องของศัลยกรรมโดยเฉพาะ (Specialty)
  3. LABX ดูแลเรื่องผิว, ชะลอวัย, และดูแลรูปร่าง โดยจับตลาดกลุ่มมมวลชนระดับบน (Premium mass) มีสัดส่วน (Proportion)

ในภาพรวม (Overall) ลูกค้าคนไทย 95% และต่างชาติอีก 5% ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief executive officer: CEO) บริษัท เดอะคลีนิกค์ (The Klinique) คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับ 'กรุงเทพธุรกิจ' ต่อไปว่า เหตุผลที่ต่างชาติยังเป็นสัดส่วน (Proportion) ที่น้อยเพราะ The Klinique Surgery Center ซึ่งดูแลเรื่องศัลยกรรม เพิ่งเปิดตัว (Launch) เมื่อเมษายนปีที่แล้ว

แต่เมื่อแยกดูในส่วนของศัลยกรรม พบว่า มีสัดส่วนลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% และหลังจากเปิดประเทศหลังการแพร่ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) ของไวรัสโควิด-19 ประเทศไทยได้อานิสงส์ (Benefit) จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Foreign tourist) เข้ามาด้วย โดยเฉพาะแผนกผิวหนังและศัลยกรรม

นักท่องเที่ยวแต่ละประเทศมีความนิยม (Popularity) ที่แตกต่างกันเล็กน้อย เช่น กลุ่ม CLMV (C = Cambodia, L = Laos, M  Myanmar, V = Vietnam) และ จีน จะนิยมเสริมจมูก (Nose enhancement), ทำตา 2 ชั้น (Blepharoplasty), เสริมหน้าอก (Breast enhancement) ส่วนลูกค้าจากออสเตรเลีย จะนิยมดูดไขมัน (Liposuction)

เหตุผลที่ต่างชาตินิยมเข้ามาทำศัลยกรรมในไทยนั้น เนื่องจากผลงาน (Performance) และราคาที่สมเหตุสมผล (Reasonable pricing) ความจริงประเทศไทยมีชื่อเสียง (Famous) ในต่างประเทศ ในเรื่องศัลยกรรมมานานมากแล้ว โดยเฉพาะการแปลงเพศ (Trans-gender) และการดูดไขมัน

ในส่วนของคนไทยที่นิยมรับบริการ คือ เสริมจมูก, เสริมหน้าอก, ดูดไขมัน, ดึงหน้า (Face-lift), ดึงคิ้ว (Brow-lift), และทำตา 2 ชั้น ซึ่งแต่เดิมศัลยกรรมตกแต่ง (Cosmetic surgery) เหล่านี้จะเข้าถึงยาก เนื่องจากคนจะยังกลัว (Fear) แต่ปัจจุบัน มีสื่อสังคม (Social media) ที่แพร่หลายในหลายๆ กรณี ทำให้คนเข้าถึงง่าย (Accessible) และกล้า (Brave) ทำมากขึ้น

สำหรับในปี 2566 เดอะคลีนิกค์ บรรลุ (Achieve) เป้ารายได้ที่ตั้งไว้ ณ 2,000 กว่าล้านบาท โดยเติบโตจากปีก่อน ซึ่งมีรายได้ราว 1,600 ล้านบาท ขยายตัวจาก 44 สาขา เป็น 50 สาขา ณ สิ้นปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็น The Klinique จำนวน 38 สาขา LABX จำนวน 11 สาขา และ THE KLINIQUE Surgery Center จำนวน 1 สาขา ขณะนี้มีแพทย์รวม 70 คน แพทย์เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม (Surgery specialist) 10 คน

“ปัจจัยที่จะทำให้เติบโตได้ในปีที่แล้ว จากการขยายสาขา, การลงเครื่องมือแพทย์ (Medical device) และความต้องการ (Demand) จากการที่มีลูกค้าต่างชาติเข้ามากขึ้น ในทางด้านศัลยกรรม และแผนกผิวหนัง ขณะเดียวกัน ตลาดสุขภาวะสมบูรณ์ก็โตมากขึ้นเรื่อยๆ พอคนเริ่มดูแลตัวเองจากภายนอก (External) ก็จะเริ่มดูแลจากภายใน (Internal) แม้ตลาดจะเผชิญกับความท้าทาย (Challenge) แต่มองว่าเป็นสิ่งที่ดี (Optimistic) เพราะทำให้มีเพิ่มการใช้งานเทคโนโลยีและเพิ่มความรู้ใหม่ ๆ ตลอดเวลา แสวงหาวิธีการรักษาเพื่อให้ได้ผลดีขึ้น นับเป็นเรื่องที่ท้าท้ายและเป็นผลดีต่อคนไข้ด้วย” CEO กล่าวทิ้งท้าย 

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1064964 [2024, August 7].
  2. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/complementary-alternative-medicine/about/pac-20393581 [2024, August 7].