12. ตลาดคลินิกเสริมความงาม-ชะลอวัย – ตอนที่ 36

Grand View Research [บริษัทวิจัยการตลาดระดับสากล] ประเมินมูลค่าตลาด (Market value) เสริมความงาม (Beauty enhancement) ทั่วโลก คาด (Forecast) ว่า ในปี พ.ศ. 2570 มูลค่าตลาดจะใกล้ถึง (Approaching) ระดับ 2.16 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.56 ล้านล้านบาท)

ตัวเลขนี้ เป็นอัตราเติบโตการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (Compound annual growth rate: CAGR) ระหว่างปี พ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2570 ที่ +13.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2563 ประมาณ 2.5 เท่า

ขณะที่ในประเทศไทยจะใกล้ถึงระดับ 7.51 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.63 แสนล้านบาท) ตัวเลขนี้ เป็นอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น ระหว่างปี พ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2570 ที่ +16.6% กล่าวคือ เพิ่มจากปี พ.ศ. 2563 เกือบ 3 เท่า

ขณะเดียวกัน สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery: ISAPS) เผยว่า ผู้ที่เสริมความงามโดยศัลยแพทย์ (Surgeon) ในปี พ.ศ. 2564 เพิ่มขึ้นถึง +19.3% โดยเป็นการทำศัลยกรรมแบบผ่าตัดรวมกว่า 12.8 ล้านครั้ง และศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัด (Non-surgery) 17.5 ล้านครั้งทั่วโลก

สำหรับในประเทศไทยเอง อุตสาหกรรมศัลยกรรม (Surgical industry) และความงาม (Aesthetics) ปี พ.ศ. 2565 ก็มีมูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านบาท โดเติบโตจากปี พ.ศ. 2560 ซึ่งอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท [กล่าวคือ 2 เท่าใน 6 ปี]

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief executive officer: CEO) บริษัท เดอะคลีนิกค์ (The Klinique) คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับ 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า ภาพรวมตลาดยังเติบโตได้เรื่อยๆ (Continue to grow) และต่อไป การก้าวสู่สังคมสูงวัย (Aging society) ทำให้คนที่อายุมากขึ้น ต้องการบริการที่ก้าวหน้า (Advanced) ขึ้น

ตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) ของไวรัสโควิด-19 ทำให้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ (Health conscious-ness) มากขึ้น จากเดิมที่ดูแลเรื่องของความสวยความงามภายนอก (External) อย่างเดียว แต่ปัจจุบันเริ่มหันมาดูแลเรื่องของชะลอวัย (Anti-aging), สุขภาวะสมบูรณ์ (Wellness), และการให้วิตามินเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน (Immunity boosting)

“แต่เดิมเรามีแผนกผิวหนัง (Skin) และรูปร่าง (Shape) เป็นหลัก สัดส่วน (Proportion) ของการดูแลสุขภาพยังไม่เยอะ แต่ปัจจุบันสัดส่วนของ Wellness เริ่มเยอะขึ้น คนเริ่มใส่ใจสุขภาพภายใน (Internal) ผู้สูงวัย (Elderly) สนใจการฟื้นฟู (Rejuvenate) ประสิทธิภาพร่างกาย (Physical efficiency) โดยรวม (Holistic) เช่น การชะลอวัย, การชะลอความเสื่อมของความจำ (Memory deterioration), และช่วยการนอนหลับ (Sleeping aid) . . . 

. . . โดยในกลุ่มผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มชั่วอายุคน (Generation) Y และ เจน Z ลงมา จะนิยมบำรุงผิวหน้า (Facial nourishment), รักษาผิวแพ้ง่าย (Sensitive skin), ผมร่วง (Alopecia), ผมบาง (Thin hair) เป็นต้น นอกจากความนิยม (Popularity) ในเรื่องของวิตามินแบบฉีด (Drip vitamin) . . .

. . . กลุ่มเจน X ขึ้นไป จะนิยม การใช้เซลล์พิฆาตธรรมชาติ  (Natural killer cell: NKC) เสริมภูมิคุ้มกันร่างกายระดับเซลล์ ในการตรวจมะเร็ง (Cancer), ใช้เซลล์เม็ดเลือดขาว (White blood cell) ในการรักษามะเร็ง, และใช้การซ่อมแซมขนาดจิ๋ว (Mini repair) ในหมู่สตรี เพื่อช่วยกระชับและแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด (Urinary incontinence) โดยไม่ต้องผ่าตัด . . . 

. . . ในขณะที่ กลุ่มวัยทำงาน (Office worker) ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกลุ่มอาการสำนักงาน (Office syndrome) สามารถรักษาโดยใช้เครื่องคลื่นกระแทกอย่างแรง (Hyper shock-wave) ซึ่งที่คลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (Expert) สามารถประเมิน (Assess) และทำการรักษา (Treatment) ได้เลย” 

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1064964 [2024, July 11].
  2. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/complementary-alternative-medicine/about/pac-20393581 [2024, July 11].