12. ตลาดคลินิกเสริมความงาม-ชะลอวัย – ตอนที่ 19

ปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้คนต่างตื่นตัวหันมาให้ความสำคัญในการใส่ใจดูแลตัวเองโดยเฉพาะการชะลอวัยด้วยโภชนบำบัด (Nutrition therapy) การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และช่วยชะลอความแก่ (Anti-aging) โดยไม่ใช้ยานั้น เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีได้อย่างยั่งยืน

แนวโน้ม (Trend) ดังกล่าวเห็นได้ชัดหลังจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้คนยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive) มากขึ้น อีกทั้งการเดินหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging society) ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผู้สูงอายุคนไทยเพิ่มขึ้นปีละ 5 แสนคน และคาดว่าในปี พ.ศ. 2568 ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยจะมีผู้สูงอายุ 1 คน ต่อประชากร 5 คน

แน่นอนว่า กลุ่ม Silver Age ยังคงต้องการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง (Active) ให้มากที่สุด ส่งผลให้การชะลอวัยแบบองค์รวม (Holistic) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น บริการทางการแพทย์และบริการอื่นๆ ในปัจจุบัน มีการพัฒนาไปสู่การดูแลไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงจิตใจ (Mental), ที่อยู่อาศัย, และคุณภาพชีวิต เพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติ

หากดูการคาดการณ์ เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลก (Global) จาก Global Wellness Institute (GWI) พบว่า ในปี พ.ศ. 2568 คาดจะมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 245 ล้านล้านบาท) โดยธุรกิจดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มยิ่งใหญ่ (Mega trend) ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านี้ กระแสการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness tourism) ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

GWI ประเมินว่า การท่องเที่ยวแบบนี้ จะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 35 ล้านล้านบาท) ในปี พ.ศ. 2567 อีกทั้ง ในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็น “จุดหมายปลายทาง เพื่อสุขภาพ (Wellness destination) อันดับ 2 ของโลก

กระแสสุขภาพและแนวโน้มการเติบโตทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก เพราะความมั่งคั่งที่แท้จริง คือ การที่มีสุขภาพที่ดี (Health is wealth) ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่องภายใต้ชื่องาน “InterCare Asia” (อินเตอร์แคร์ เอเชีย) ซึ่งในปีนี้ ได้เปิดรับผู้เข้าชมงานทั้งจากภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่

ในงานจะประกอบด้วยสินค้าตามวิถีใช้ชีวิต (Life-style) และความเป็นอยู่, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food supplement),  เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ, อุปกรณ์และสินค้าเพื่อความงาม (Aesthetics), อุปกรณ์ทางการแพทย์ และฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation), การวางแผนเพื่อเกษียณ (Retirement), และที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (Elderly care) ด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐสูงสุดถึง 80% พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจ (Business alliance) ไม่ว่าจะเป็นด้านการดูแลสุขภาพและความงาม, โภชนาการและโภชนบำบัด, การดูแลด้านสุขภาพ (Health-care), และการฟื้นฟูสมรรถภาพอีกด้วย อีกทั้งยังมีการเปิดพื้นที่พิเศษ เพื่อแบ่งปันความห่วงใย และร่วมแบ่งปันกำลังใจ ในการรณรงค์ “Share & Care แค่รักยังไม่พอ”

แหล่งข้อมูล

  1. https://mgronline.com/business/detail/9660000076128 [2023, November 13].
  2. https://globalwellnessinstitute.org/wellnessevidence/?gclid=EAIaIQobChMIwqWo15n1_wIVwWMrCh0qXQhkEAAYASAAEgJQBfD_BwE [2023, November 13].