13. ตลาดคลินิกทันตกรรม – ตอนที่ 10

  • โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
  • 12 กรกฎาคม 2566
  • Tweet

  1. จากการศึกษาข้อมูลพบว่า งบประมาณด้านสุขภาพของโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 9.2% ของรายได้ประชาชาติ (National income) หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross domestic product: GDP) เมื่อพิจารณางบประมาณด้านสุขภาพของประเทศในอาเซียน (ASEAN = Association of South-East Asia Nations) พบว่า มีการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพน้อยมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลก และต่ำกว่าเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO = World Health Organization) ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5% ของ GDP จึงเป็นโอกาสของธุรกิจด้านการแพทย์ (รวมถึงด้านทันตกรรม) ที่จะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต
  1. กลุ่มประเทศ CLMV (= Cambodia, Laos, Myanmar, and Vietnam) ยังมีการพัฒนาด้านการแพทย์ที่ล้าหลังประเทศ ไทย กลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ทำให้การจัดสรรงบประมาณในด้านการส่งเสริมสุขภาพไม่เพียงพอ ประเทศเหล่านี้จึงมีการพัฒนาด้านการแพทย์และเทคโนโลยีที่ล้าหลังกว่าประเทศไทย ดังนั้น หลังจากการผลักดันการเติบโตของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) คาดว่าจะมีประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางข้ามมาฝั่งประเทศไทยเพิ่มขึ้น และมีโอกาสที่จะใช้บริการด้านสุขภาพในเมืองไทย

อุปสรรค (Obstacle) ของคลินิกทันตกรรมไทย ได้แก่

  • การแข่งขันของตลาดภายในประเทศ ตลาดทันตกรรมในประเทศไทยมีสถานประกอบการมากกว่า 3,500 แห่ง สร้าง รายได้หมุนเวียน (Turn-over) ในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะมีคลินิกทันตกรรมเปิดใหม่ทั่วประเทศ ประมาณ 10 แห่งในทุกเดือน (จากศูนย์บริการข้อมูลการค้า-การลงทุน) ทำให้สามารถ คาดการณ์ได้ว่า ในปัจจุบันจะต้องมีสถานประกอบการด้านทันตกรรมเพิ่มขึ้นจากในปี พ.ศ. 2554 อีกหลายร้อยแห่ง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครที่มีคลินิกทันตกรรมจำนวนมาก รวมถึงมีทันตแพทย์ที่ปฏิบัติงานในกรุงเทพมหานคร มากกว่า 50% ของทันตแพทย์ทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงสภาพการแข่งขันที่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น
  • การแข่งขันจากตลาดต่างประเทศ อิทธิพลจากการเปิดเสรีทางการค้า ทำให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีใน 7 วิชาชีพสำคัญ อันได้แก่ พยาบาล, สถาปนิก, นักสำรวจ (Surveyor), วิศวกร, แพทย์, ทันตแพทย์, และนักบัญชี ซึ่ง ประเทศไทยได้มีการลงนามข้อตกลง MRA (Mutual Recognition Arrangement) ในวิชาชีพทันตแพทย์ ซึ่งมีสาระสำคัญคือ จะต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ที่ต้องการเคลื่อนย้ายเมื่อเปิดเสรี ทำให้เมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว แรงงานจากประเทศอื่นในกลุ่มสมาชิกสามารถย้ายเข้ามาทำงานในไทย ทำให้ผู้ให้บริการด้านทันตกรรมในประเทศไทย แข่งขันกับผู้ให้บริการทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติg

จากข้างต้นจะพบว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจคลินิกทันตกรรม และส่งผลกระทบในด้านลบค่อนข้างน้อย หากคลินิกทันตกรรมในประเทศไทย พัฒนาและปรับปรุงจุดอ่อน ในขณะที่รักษาจุดแข็งไว้ ประกอบกับโอกาส (Opportunity) จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผู้ประกอบการไทยจะสามารถผลักดันผลักดันคลินิกทันตกรรมให้เจริญเติบโตและรองรับการแข่งขันได้อย่างแน่นอน

แหล่งข้อมูล - 

  1. http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2014/TU_2014_5602115155_1243_332.pdf [2023, June July 11].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Market_environment [2023, July 11].