9. ตลาดการแพทย์ทางไกล – ตอนที่ 14
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 2 กันยายน 2566
- Tweet

เป้าหมายของ True Group คือการสร้างระบบนิเวศใหม่ (Econ-system) ของบริการสาธารณสุข เพื่อให้คนไทยสามารถใช้บริการสุขภาพตามสิทธิขั้นพื้นฐาน (Basic rights) จนถึงการให้บริการขั้นสูงขึ้น รวมทั้งเปิดให้คนไทยสามารถปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง (Specialty) จากต่างประเทศได้ในเวลาจริง (Real time) ซึ่งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อได้เปิดทางให้เข้าถึงได้อยู่แล้ว
ปัจจุบันซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application: App) ‘หมอดี’ มีแพทย์หมุนเวียนมาให้คำปรึกษาอยู่ราว 500 คน ครอบคลุมการรักษาเฉพาะทางกว่า 20 ประเภท ทั้งการรักษาสุขภาพกาย และสุขภาพใจ (Mental health) เมื่อรวมกับการนำเทคโนโลยีอย่าง 5G (=5th Generation), คลาวด์ (Cloud), และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence: AI) เข้ามาช่วย จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ (Gap) ในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของคนไทยได้
นอกเหนือจากบริการผ่าน App. แล้ว True Group และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ยังได้ผสานความร่วมมือ (Collaboration) ในการเปิดจุดให้บริการในลักษณะของ ‘มุมสุขภาพ’ (Health Corner) ให้คนไทยได้ใช้บริการหาหมอออนไลน์ได้ ‘ทุกที่ ทุกเวลา’ (Anywhere, Anytime) ซึ่งให้บริการผ่านแอป ‘หมอดี’ โดย True Health ในลักษณะของการนำจุดให้บริการสาธารณสุขเข้าไปให้คนไทยได้ใช้งานตามสถานที่ต่างๆ
โดยเริ่มติดตั้งให้บริการ Smart Screen ที่ติดตั้ง App ‘หมอดี’ ให้ใช้งานในห้าง Lotus และ Macro กว่า 20 แห่ง และมีแผนที่จะขยายจุดให้บริการเพิ่มเติมไปยังคลินิกในชุมชน (Community clinic), สถานพยาบาล (Health station), หรือตามวัด (Monastery) ต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้คนที่ไม่มีโทรศัพท์อัจฉริยะ (Smart phone) สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ในอดีตที่ผ่านมาการให้บริการโทรเวชกรรม (Tele-medicine) หรือจุดให้บริการทางการแพทย์ต่างๆ อาจจะมีข้อจำกัดทางกฎหมาย (Legal limitation) อย่างเรื่องการจ่ายยา (Dispensing) ที่ต้องมีเภสัชกรแนะนำ การจัดสถานที่ให้คำปรึกษาต้องมีความปลอดภัย (Safety) ทำให้ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจร่วมกัน เพื่อให้สร้างสิ่งใหม่หรือนวัตกรรม (Innovation) ที่ดีขึ้นได้
ไม่ใช่เฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปเท่านั้นที่ต้องมี “เวทีพื้นฐาน” (Platform) ของ True Health จึงจะสามารถเข้าไปใช้บริการได้ เพราะในอีกมิติหนึ่ง Platform นี้สามารถเชื่อมต่อเข้าไปให้บริการดูแลรักษาสุขภาพ (Health-care) ของพนักงานในบริษัท หรือแม้แต่การที่ธุรกิจเอกชน (Private business) จะนำไปให้บริการลูกค้า (Customer service) ต่อ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
แนวโน้ม (Trend) ที่เกิดขึ้นในแง่ของการดูแลพนักงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human resources: HR) ที่ต้องเข้าไปช่วยดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ (Mental health) เพื่อให้เกิดสุขภาวะสมบูร์ (Wellness) ถือเป็นความท้าทาย (Challenge) ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากร และไม่ใช่แค่การดูแลรักษาในยามเจ็บป่วยเท่านั้น
ดังนั้น หากฝ่าย HR ต่างเห็นปัญหาร่วมกัน และเห็นว่าบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญถือเป็นทรัพย์สิน (Asset) ที่มีค่ามากที่สุดในองค์กร หนึ่งในวิธีที่จะดูแลคือการให้สวัสดิการสุขภาพที่ดี (Health-care benefit) แต่ยังครอบคลุมไปถึงการดูแลให้สุขภาพแข็งแรงด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การวัดดัชนีมวลกาย (Body mass index: BMI) ของพนักงาน และการให้คำปรึกษาทางด้านโภชนาการ (Nutrition) ต่างๆ ซึ่งในท้ายที่สุดจะช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Efficiency) มาก
แหล่งข้อมูล –
- https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9650000033527 [2023, September 1].
- https://en.wikipedia.org/wiki/Digital_health [2023, September 1].