จิตวิทยาผู้ใหญ่ ตอนที่ 230: แอลกอฮอล์ (1)
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 8 กันยายน 2562
- Tweet
โรงต้มกลั่น (Brewery) ของมึนเมา หรือ แอลกอฮอล์ (Alcohol) ปรากฏในอียิปต์ ประมาณ 3,700 ปี ก่อนคริสตกาล (B.C. = Before Christ) ทำให้แอลกอฮอล์เป็นยา (Drug) ที่เก่าแก่ที่สุดที่ผลิตโดยมนุษย์ ซึ่งได้กลายเป็นการเสพยอดนิยมไปทั่วโลก การดื่มแอลกอฮอล์มักเกี่ยวข้องกับปัญหามากมาย อาทิ ผลต่อกระทบต่อการประสานความเคลื่อนไหว (Motor coordination)
ถ้าเช่นนั้น จึงมีคำถามว่า ทำไมจึงไม่ถูกสั่งห้าม (Ban)? อันที่จริง ในปี ค.ศ. 1919 สภาผู้แทนราษฎร (Congress) ของสหรัฐอเมริกา ได้ผ่านกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 18 (Eighteenth Amendment) ซึ่งห้าม (Prohibit) การขายและผลิต (Manufacture) แอลกอฮอล์
แต่ชาวอเมริกันจำนวนมาก ไม่ต้องการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงเกิดตลาดมืดที่มีผลประโยชน์มหาศาล (Lucrative) จากการแอบจำหน่าย (Supply) เครื่องดื่มนี้ จนกระทั่งหลังจาก 14 ปีของตลาดมืดและความล้มเหลวของการสั่งห้าม สภาผู้แทนราษฎรอเมริกัน จึงยกเลิก (Repeal) กฎหมายห้ามดังกล่าวในปี ค.ศ. 1933
บทเรียนจากการสั่งห้าม ก็คือเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านกฎหมายสั่งห้ามเสพยาที่ยอดนิยมไปแล้วทั่วโลก ทุกวันนี้ รัฐบาลอเมริกันเผชิญปัญหามากมายจนต้องใช้เงินมหาศาลในแต่ละปี ในการปราบปรามยาที่ผิดกฎหมาย อาทิ เฮโรอีน (Heroine) กัญชา (Marijuana) โคเคน (Cocaine) และยาบ้า (Methamphetamine) ซึ่งยังมีการแอบจำหน่ายในตลาดมืดตามตัวเมืองใหญ่ๆส่วนมากในสหรัฐอเมริกา
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันประมาณ 110 ล้านคนดื่มแอลกอฮอล์ แม้คนส่วนมากจะไม่ประสบปัญหาใด แต่ประมาณ 10 ถึง 15 ล้านคน ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด (Heavy drinker) มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรม (Behavioral) ประสาท (Neural) สังคม (Social) กฎหมาย (Legal) หรือการแพทย์ (Medical) กล่าวคือ ผลกระทบต่อสมอง ร่างกาย และพฤติกรรมของผู้ดื่ม
แอลกอฮอล์ประเภทที่ปลอดภัยในการดื่ม คือ เอธิล แอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) เราวัดระดับของแอลกอฮอล์เป็นปริมาณเปอร์เซ็นต์ในเลือด (Blood alcohol content : BAC) ตัวอย่างเช่น หลังการดื่ม 3 – 4 แก้วใน 1 ชั่วโมง BAC เฉลี่ยของผู้ดื่ม จะมีตั้งแต่ 0.08 ถึง 0.1 นิยามตามกฎหมายก็คือ การดื่มที่มึนเมา (Drunk) อยู่ที่ระดับ 0.08
การดื่มได้รับการนิยามว่า เป็น 1 ค็อกเทล (Cocktail), 1 แก้วไวน์ (Wine) 5 ออนซ์ (~0.14 ลิตร) หรือ 1 ขวดเบียร์ 12 ออนซ์ (~0.34 ลิตร) ไม่มีความแตกต่างระหว่างการดื่มเหล้า (Liquor) ไวน์ หรือ เบียร์ (Beer) เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ล้วนประกอบด้วยเอธิลแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบประสาท (Nervous system) อันสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและอารมณ์ได้
แหล่งข้อมูล:
- Plotnik Rod. (2002). Introduction to Psychology (6th Ed). Pacific Grove, CA: Wadsworth -Thompson Learning.
- Hallucinogen - https://en.wikipedia.org/wiki/Hallucinogen [2019, August 31].