จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน – ภาคที่ 3 จิตวิทยาผู้ใหญ่ ตอนที่ 103: การเห็นสีสัน (3)
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 2 เมษายน 2560
- Tweet
ทฤษฎี “กระบวนการตรงข้าม” (Opponent-process) กล่าวว่า เซลล์ปมประสาท (Ganglion) ในจอประสาทตา (Retina) และเซลล์ในเนื้อสมองที่ฐานใหญ่ (Thalamus) สนองตอบต่อ 2 คู่สีที่เกื้อกูลกัน (แดง-เขียว กับ ฟ้า-เหลือง) เมื่อเซลล์เหล่านี้ได้รับการกระตุ้น (Excited) ก็จะสนองตอบต่อสีหนึ่งในคู่ แต่เมื่อได้รับการขัดขวาง (Inhibited) ก็จะสนองต่ออีกสีหนึ่งในคู่เดียวกัน
ตัวอย่างเช่น บางเซลล์ปมประสาท และเซลล์ในเนื้อสมองที่ฐานใหญ่ ใช้คู่แดง-เขียวรวมกัน (Combination) ก็จะส่งสัญญาณ (Signal) สีแดงเมื่อถูกกระตุ้น และส่งสัญญาณสีเขียวเมื่อถูกขัดขวาง ส่วนอื่นของเซลล์ปมประสาท และเซลล์ในเนื้อสมองที่ฐานใหญ่ ใช้คู่ฟ้า-เหลืองรวมกัน (Combination) ก็จะส่งสัญญาณสีฟ้าเมื่อถูกกระตุ้น และส่งสัญญาณสีหลืองเมื่อถูกขัดขวาง
ดังนั้น ส่วนต่างๆ ของระบบการเห็น อาจใช้วิธีที่แตกต่างกันในการให้รหัสสีต่างๆ กัน เนื่องจากเราเห็นสีสันโดยอัตโนมัติตามธรรมชาติ เราอาจไม่ทราบว่า มันเกี่ยวข้องกับ “ทฤษฎีแม่สีหลัก” (Trichromatic) และ “ทฤษฎีกระบวนการตรงข้าม” เมื่อเรานำทั้ง 2 ทฤษฎีของการเห็นสีสัน มารวมกัน จะสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเห็นสีสันได้ดังต่อไปนี้
- ทฤษฎีแม่สีหลัก กล่าวว่า มีแม่สีหลักอยู่ 3 ชนิดใน “ตัวรับแสงทรงกรวย” (Cone) [อาจมีมากถึง 9 ชนิดในการค้นพบภายในเวลาต่อมา] ในจอประสาทตา แต่ละกรวยดูดซึมคลื่นแสงอันมีช่วง (Length) ที่แตกต่างกัน ซึ่งจับคู่ตรงกับ 3 แม่สีหลัก (Primary) ของสีฟ้า เขียว และแดง
- เมื่อสัญญาณไฟฟ้า (ข้อมูลของสี) เข้าถึงเซลล์ปมประสาทในจอประสาทตา และเซลล์ประสาท (Neuron) ในเนื้อสมองที่ฐานใหญ่ มันจะใช้ทฤษฎีกระบวนการตรงกันข้าม ซึ่งเกี่ยวข้องกับคู่สีสัน โดยจะส่งผลให้หนึ่งในคู่สี หากถูกกระตุ้น และอีกหนึ่งในคู่สี หากถูกขัดขวาง
- แรงกระตุ้นประสาท (Nerve impulse) จะนำข้อมูลสีนี้ไปยัง “เปลือกสมองส่วนการเห็น” (Visual cortex) ในขณะที่เซลล์ประสาทอื่นๆ จะสนองตอบต่อการเห็นสีสันหลากหลาย ซึ่งอาจประกอบขึ้นด้วยรวมแม่สีหลักทั้ง 3 สีเข้าด้วยกัน
แม้พวกเราส่วนใหญ่มีการเห็นสีสันที่ดีเป็นปรกติ แต่ยังมีบางคนที่ประสบปัญหา “ตาบอดสี” (Color blindness) ที่แตกต่างในขอบเขต (Varying degrees) ประมาณ 1 ใน 20 คนในสหรัฐอเมริกา ได้รับการสืบทอด (Inherit) ตาบอดสีผ่านทางพันธุกรรม
ตาบอดสีคือ ความไม่สามารถ (Inability) แยกแยะ (Distinguish) ระหว่างร่มสีในแถบสี (Color spectrum) คนที่ตาบอดสีมักไม่รู้ตัว อาทิ เด็กเล็กที่ตาบอดสีอาจมองเห็นสุนัขเป็นสีเขียว ในบางอาชีพ (Occupation) อาทิ ช่างไฟฟ้า มีกฏเกณฑ์ว่า ต้องผ่านการทดสอบ (Screen) ในเรื่องความสามารถในการแยกแยะสายไฟ (Wire) ที่มีสีสันแตกต่างกัน จึงจะประกอบอาชีพนี้ได้
แหล่งข้อมูล
- Plotnik, Rod. (2002). Introduction to Psychology (6th Ed). Pacific Grove, CA: Wadsworth -Thompson กLearning.
- Color vision - https://en.wikipedia.org/wiki/Color_vision [2017, April 1].