คุยกับหมอสมศักดิ์ ตอนเมื่อคุณพบแพทย์ ตอนที่ 21 เหม่อลอย
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 29 กรกฎาคม 2557
- Tweet
อาการเหม่อลอย อาจเกิดจากการที่คนคนนั้นไม่สนใจใยดีต่อสิ่งรอบตัว แต่กลับปล่อยให้ตนเองล่องลอยไปที่อื่นๆ คิดถึงคนที่ไม่ได้อยู่ใกล้ ขาดสมาธิหรือเป็นโรคลมชักชนิดหนึ่งที่มีอาการนั่งนิ่งเหม่อลอย รวมทั้งการนอนหลับกลางวัน ดังนั้นอาการเหม่อลอย ก็ต้องใช้ประวัติที่มีรายละเอียดอย่างมาก ไม่แตกต่างกับอาการผิดปกติอื่นๆ หรืออาจจะต้องใช้มากกว่าด้วย ยากกว่าในการได้มาของประวัติ เพราะส่วนหนึ่งผู้ป่วยจะไม่สามารถบอกเล่าอาการที่เกดขึ้นได้ เนื่องจากไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะนั้น ผู้ที่เห็นเหตุการณ์จึงต้องสังเกตการที่เกิดขึ้นให้ดี เพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุด
- อาการนั่งนิ่งเหม่อลอยนั้น เป็นนานเท่าใด ในแต่ละครั้งระยะเวลาในการเหม่อลอยแต่ละครั้งนั้นสำคัญมาก เพราะถ้าเป็นการชักแบบนั่งนิ่งเหม่อลอยนั้น จะเป็นประมาณ 30-45 วินาทีไม่นานกว่านี้แต่ถ้าเป็นการนั่งใจลอยจะเป็นระยะเวลานานแตกต่างกัน
- อาการเป็นบ่อยแค่ไหน วันละหลายๆครั้ง หรือนานๆ ครั้ง
- มีอาการกระพริบตา เคี้ยวปาก ขยับปาก ถูมือไปมาหรือไม่
- การทรงตัวขณะที่มีอาการเหม่อลอยนั้น มีการโยกตัวไปมา เสียการทรงตัวหรือไม่
- หัวมีการโยกไปมา หรือผงกหัวหรือไม่
- มีการเดินไปมาหรือไม่
- เรียกรูสึกตัวหรือไม่
- มีการแสดงอาการตกใจเมื่อถูกเรียกหรือไม่
- อาการไข้ชักในวัยเด็ก
- อุบัติเหตุที่ศีรษะ
- ดื่มเหล้า สารเสพติด
- เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนหรือไม่
- เคยมีอาการชักแบบอื่นๆ หรือไม่
- โรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง ลมชัก สมองเสื่อม
- ประวัติการคลอด การเติบโต พัฒนาการวัยเด็ก
- ยาที่ทานเป็นประจำ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอาการนั่งนิ่งเหม่อลอยนั้นสำคัญครับ ไม่ง่ายในการวินิจฉัย ต้องอาศัยประวัติที่ละเอียดจากผู้ป่วยและผู้พบเห็น ถ้าท่านมีโอกาสเห็นใครมีอาการดังกล่าว และท่านสามารถนำกล้องใน “สมาร์ทโฟน” มาบันทึกภาพได้ทัน ก็จะเป็นการช่วยทำให้แพทย์วินิจฉัยได้ง่ายขึ้น