เปรียบเทียบผลข้างเคียงต่อกระบวนการรับรู้ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระหว่างกลุ่มได้รับยาฮอร์โมนเพียงอย่างเดียวกับกลุ่มได้รับยาฮอร์โมน+ยาเคมีบำบัด
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 8 มีนาคม 2564
- Tweet
ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกาและบางประเทศ การรักษามะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมก้าวหน้าไปมาก ผู้ป่วยที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี การรักษาจะใช้การตรวจในระดับโมเลกุล/จีน/ยีนเพื่อดูปัจจัยเสี่ยงที่เซลล์มะเร็งจะดื้อยาซึ่งข้อมูลจะช่วยให้แพทย์เลือกใช้ยาได้เหมาะสมเป็นรายผู้ป่วยที่จะช่วยลดผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็นจากยาลงไปได้อย่างมากซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เรียกการรักษาวิธีนี้ว่า ‘Tailored medicine’ ซึ่งในบ้านเราก็มีการนำวิธีนี้มาใช้แล้วโดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนบางโรงพยาบาล
คณะแพทย์ที่ใช้การรักษาวิธีนี้จากประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ไอร์แลนด์, และเปรู ได้ร่วมกลุ่มกันเพื่อศึกษาวิจัยในคนไข้มะเร็งเต้านมกลุ่มที่รักษาโดยวิธี Tailor medicine เรียกโครงการการศึกษาในนี้ว่า The TAILORx Breast Cancer Trial ย่อว่า TAILORx
คณะแพทย์โรคมะเร็งจาก TAILORx นำโดย Dr. Lynne I. Wagner จาก Wake Forest School of Medicine, Winston-Salem, North Calorina, สหรัฐอเมริกา ต้องการศึกษาถึงผลข้างเคียงต่อกระบวนการรับรู้ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีระยะโรคต้นๆคือ ระยะที่ยังไม่มีการลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง, มีตัวรับฮอร์โมนเพศเป็นบวก(ER+, PR+), และมีตัวรับต่อสารที่มีผลต่อการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งHER-2เป็นลบ(HER-), ว่าผู้ป่วยใน TAILORx ที่ได้รับการรักษาด้วยยาฮอร์โมนเพียงวิธีการเดียวมีผลข้างเคียงต่อสมองในเรื่องของการรับรู้(Cognitive impairment)ต่างกับผู้ป่วยกลุ่มได้รับยาเคมีบำบัด+ฮอร์โมนอย่างไร และได้รายงานผลศึกษานี้ในวารสารการแพทย์ด้านโรคมะเร็ง Journal of Clinical Oncology(JCO) ฉบับ 10 มิถุนายน 2020
ผลการศึกษาพบว่า จากผู้ป่วย 552 รายเมื่อติดตามผู้ป่วยที่ 3,6,12,24,และ36เดือน พบว่าที่ระยะเวลา 3และ6เดือน ผู้ป่วยกลุ่มได้ยาเคมีบำบัด+ฮอร์โมนมีปัญหาด้านการรับรู้แย่กว่าผู้ป่วยที่ได้รับฮอร์โมนวิธีการเดียวอย่างมีความสำคัญทางสถิติ แต่เมื่อติดตามนานขึ้นเป็น 12,24,และ36เดือน ระดับการรับรู้ของผู้ป่วยทั้ง2กลุ่มไม่ต่างกัน
คณะผู้ศึกษาได้สรุปผลการศึกษาว่า ผลข้างเคียงต่อสมองของยาเคมีบำบัดในด้านการรับรู้ ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกของโรคที่มีER+,PR+,Her2- เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ดังนั้นการใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับฮอร์โมนในผู้ป่วยมะเร็งกลุ่มนี้ที่การศึกษาทางโมเลกุลพบว่ามีโอกาสโรคจะย้อนกลับเป็นซ้ำสูงจึงไม่ส่งผลถึงคุณภาพชีวิตที่แย่ลงในด้านการรับรู้ ซึ่งการศึกษานี้ช่วยให้แพทย์สามารถใช้ยาเคมีบำบัดได้อย่างมั่นใจขึ้น
แหล่งข้อมูล:
- JCO 2020;38(17):1875-1888 (abstract)