ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง (Portal hypertension)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 13 พฤศจิกายน 2562
- Tweet
- บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
- ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงมีสาเหตุเกิดได้อย่างไร?
- ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง?
- ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงมีอาการอย่างไร?
- เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
- แพทย์วินิจฉัยความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงอย่างไร?
- รักษาความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร?
- เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด?
- ผลข้างเคียงจากความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงมีอะไรบ้าง?
- ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ป้องกันความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
- โรคตับ (Liver disease)
- โรคตับแข็ง (Liver cirrhosis)
- โรคพิษสุรา (Alcoholism หรือ Alcohol use disorder)
- โรคไวรัสตับอักเสบ บี (Viral hepatitis B)
- ไวรัสตับอักเสบซี
- เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ถุงหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis)
- อาหารในโรคตับ (Liver disease diet)
- อาหารในโรคตับแข็ง (Diet and liver cirrhosis)
- อาหารในโรคตับอักเสบ
- อาหารในโรคไขมันพอกตับ (Diet for fatty liver disease)
- โรคไขมันพอกตับ
บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
ความดันหลอดเลือดดำพอร์ตัลตับสูง(Portal hypertension) คือ ภาวะ/โรคที่เกิดจากมีความดันเลือดใน ’ระบบเลือดดำพอร์ทัลตับ (Hepatic portal system)’สูงกว่าปกติจากมีการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดพอร์ตัลผิดปกติ เช่น ในโรคตับแข็ง ซึ่งในภาวะปกติความดันเลือดฯนี้จะประมาณ 5-10 มิลลิเมตรปรอท(mmHg) แต่ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเมื่อความดันนี้สูงกว่าความดันหลอดเลือดฝอยในตับ(Wedge hepatic venous pressure ย่อว่าWHVP)ตั้งแต่ 10-12 มล.ปรอทขึ้นไป โดยเรียกความดันฯที่ต่างกันนี้ว่า ‘Hepatic venous pressure gradient ย่อว่า HVPG’
อนึ่ง: อาจเรียกโรคนี้ง่ายๆว่า ‘ความดันตับสูง’ หรือ ‘ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูง’ หรือ ‘ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง’
ทั้งนี้ หลอดเลือดดำพอร์ทัลตับ หรือ หลอดเลือดพอร์ตัลตับ หรือ หลอดเลือดดำพอร์ทัล(Hepatic portal vein หรือ Portal vein)คือ หลอดเลือดที่รวบรวมเลือดดำจากอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร คือจาก หลอดอาหารส่วนล่าง, กระเพาะอาหาร, ลำไส้เล็ก, ลำไส้ใหญ่, ทวารหนักส่วนบน, รวมถึงจาก ตัวตับเอง, ถุงน้ำดี, ม้าม, และตับอ่อน, กลับเข้าสู่ตับ เพื่อตับกำจัดสารพิษและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เช่น เชื้อโรค, ยาต่างๆ, ออกไป ก่อนที่เลือดดำทั้งหมดนี้จะไหลกลับเข้าสู่หัวใจห้องขวาบนผ่านทาง ’หลอดเลือดดำตับ(Hepatic vein)’เพื่อเข้าสู่หลอดเลือดดำใหญ่ช่องท้อง(Inferior vena cava ย่อว่า IVC)และเข้าสู่หัวใจห้องบนขวาในที่สุด ซึ่งระบบไหลเวียนเลือดดำที่ประกอบด้วยเลือดดำจากอวัยวะส่วนต่างๆดังกล่าว เรียกว่า ‘ระบบเลือดดำพอร์ทัลตับ หรือระบบหลอดเลือดพอร์ทัลตับ(Hepatic portal system)’
ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง เป็นโรคพบทั่วโรค ทุกเชื้อชาติ พบบ่อย พอประมาณ ไม่ถึงกับบ่อยมาก แต่ยังไม่มีสถิติเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน เพราะเป็นโรคมีหลากหลายสาเหตุที่มีสถิติเกิดโรคที่ต่างกันในแต่ละโรงพยาบาล แต่ละประเทศ โรคนี้พบทุกอายุตั้งแต่ เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ผู้ชายพบประมาณ60% ผู้หญิงพบประมาณ 40%
ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงมีสาเหตุเกิดได้อย่างไร?
ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงมีกลไกการเกิด/สาเหตุจาก
- เนื้อเยื่อตับเสียหายรุนแรง จนส่งผลให้การไหลเวียนเลือดในเนื้อเยื่อตับแย่ลง เลือดในหลอดเลือดพอร์ทัลจึงไหลผ่านตับไม่ได้ ก่อให้เกิดการกักคั่งของเลือดในหลอดเลือดพอร์ทัล ส่งผลต่อเนื่องให้ความดันในหลอดเลือดพอร์ทัลสูงขึ้น สาเหตุนี้เรียกว่า ‘สาเหตุเกิดที่ตัวตับเอง(Hepatic cause)’
- มีการอุดตันของหลอดเลือดดำจากอวัยวะต่างๆที่จะไหลเข้าสู่หลอดเลือดพอร์ทัลตับ และ/หรือเกิดโรค/ภาวะผิดปกติของอวัยวะที่เกี่ยวเนื่องกับ ’ระบบเลือดดำพอร์ทัลตับ’ (เช่น มีการอุดตัน/มีลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำของม้าม, มีโรคของม้าม), หรือมีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดพอร์ทัล ซึ่งเรียกสาเหตุนี้ว่า ‘สาเหตุเกิดอยู่ตำแหน่งก่อนถึงตับ (Prehepatic cause)’
- มีการอุดตันของหลอดเลือดดำที่ออกจากตับ(Hepatic vein), หรือของหลอดเลือดดำที่จะเข้าสู่หัวใจห้องบนขวา และ/หรือ มีหัวใจห้องบนขวาล้มเหลวรุนแรง เรียกสาเหตุนี้ว่า ‘สาเหตุเกิดอยู่ตำแหน่งหลังผ่านตับไปแล้ว(Post hepatic cause)’
ก. สาเหตุเกิดอยู่ที่ตัวตับ: เป็นสาเหตุพบบ่อยที่สุดเกือบทั้งหมดของโรค และโรคที่เป็นสาเหตุบ่อยที่สุดเกือบทั้งหมดเกิดจาก ‘โรคตับแข็ง’ ที่ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยเกิดจากโรคพิษสุรา/ดื่มสุราเรื้อรัง ส่วนสาเหตุอื่นที่พบได้น้อยกว่า เช่น
- โรคตับเป็นพังผืดแต่กำเนิด
- โรคตับอักเสบจากยาหรือจากโลหะหนัก
- โรคไขมันพอกตับ ระยะรุนแรง
- โรคไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง
- โรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง
ข. สาเหตุเกิดอยู่ที่ตำแหน่งก่อนถึงตับ : คือ ตำแหน่งของอวัยวะและหลอดเลือดดำอวัยวะต่างๆ ก่อนที่จะส่งเลือดฯเข้าหลอดเลือดดำพอร์ทัล/เข้าตับ ได้แก่ หลอดอาหารส่วนล่าง, กระเพาะอาหาร, ตับ, ถุงน้ำดี, ตับอ่อน, ม้าม, ตัวหลอดเลือดพอร์ทัลเอง ซึ่งสาเหตุในกลุ่มนี้ เช่น
- หลอดเลือดดำพอร์ทัลอุดตันจากลิ่มเลือด
- หลอดเลือดดำม้ามอุดตันจากลิ่มเลือด
- ภาวะม้ามโต จึงส่งผลให้เลือดจากม้ามที่จะเข้าสู่หลอดเลือดพอร์ทัลมีปริมาณมากขึ้น
ค. สาเหตุเกิดอยู่ที่ตำแหน่งออกจากตับหรือที่หลังจากตับไปแล้ว(Post hepatic cause): ซึ่งอาจเป็นความผิดปกติของหลอดเลือดำที่ออกจากตับ, หรือ ของอวัยวะต่างๆก็ได้(เช่น หลอดเลือดดำใหญ่ของช่องท้อง, หัวใจห้องบนขวา) สาเหตุในกลุ่มนี้ เช่น
- เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำใหญ่ช่องท้อง หรือ หลอดเลือดดำใหญ่ช่องท้องตีบ
- เกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำที่ออกจากตับ ที่เรียกว่า Budd-Chiari syndrome
- โรคหัวใจล้มเหลวรุนแรง โดยเฉพาะหัวใจห้องบนขวา
- โรคจากเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจนเกิดเป็นพังผืดบีบรัดหัวใจ จึงทำให้หัวใจล้มเหลว
อนึ่ง ด้วยสาเหตุพบบ่อยที่สุดของภาวะความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง คือ โรคตับแข็ง ดังนั้นบ่อยครั้ง จึงแบ่งสาเหตุเกิดภาวะฯนี้เป็น 2 กลุ่ม คือ
ก. กลุ่มเกิดจากโรคตับแข็ง (Cirrhotic portal hypertension) และ
ข. กลุ่มที่ไม่ได้เกิดจากโรคตับแข็ง(Non cirrhotic portal hypertension): กลุ่มนี้พบน้อยมาก เช่น
- มีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำที่จะเข้าหลอดเลือดพอร์ทัล หรือที่หลอดเลือดพอร์ทัล หรือที่หลอดเลือดที่ออกจากตับ หรือที่หลอดเลือดดำใหญ่ช่องท้อง
- มีการตีบแคบ(ที่ไม่ใช่เกิดจากลิ่มเลือด)ของหลอดเลือดดำที่จะเข้าหลอดเลือดพอร์ทัล หรือ ที่หลอดเลือดพอร์ทัล หรือที่หลอดเลือดดำออกจากตับ หรือที่หลอดเลือดดำใหญ่ช่องท้อง เช่น เกิดพังผืดดึงรัด หรือผนังหลอดเลือดอักเสบจนเกิดเป็นพังผืด หรือเป็นภาวะหลอดเลือดฯตีบแต่กำเนิด
ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง?
ผู้มีปัจจัยเสี่ยงเกิดความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงได้แก่ ผู้มีปัจจัยเสี่ยงเกิด โรคตับแข็ง ซึ่งที่สำคัญคือ
- ดื่มสุราเรื้อรัง โรคพิษสุรา
- ไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง
- ไวรัสตับอักเสบซีเรื้องรัง
- ผู้ติดยาเสพติดโดยเฉพาะที่ใช้เป็นยาฉีด
- ติดไวรัสตับอักเสบจากการสักตามร่างกาย
- มีเพศสัมพันธ์ส่ำส่อน
ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงมีอาการอย่างไร?
ไม่มีอาการเฉพาะของความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูง มักเป็นอาการคล้ายโรคตับทั่วไป ร่วมกับอาการจากโรคของอวัยวะที่เป็นสาเหตุ โดยอาการพบบ่อยของโรค/ภาวะความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูง คือ
- ท้องมาน/มีน้ำในท้อง อาจร่วมกับปวดท้องตำแหน่งทั่วๆไปหรือที่ตำแหน่งตับ (ช่องท้องด้านขวาตอนบน)
- มีอาการ แน่นท้อง กินอาหารได้น้อย หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย นอนราบไม่ได้ จากท้องโต/ท้องมานกดเบียดทับอวัยวะใน ช่องท้อง กะบังลม ปอด และหัวใจ
- เท้าบวม ตัวบวม
- มีหลอดเลือดดำหน้าท้องขยาย เห็นชัดเจนเป็นหลอดเลือดเส้นยาวๆ อาจคล้ายออกมาจากสะดือ หรือจากรอบๆสะดือ
- มีริดสีดวงทวารร่วมด้วยกับอาการดังกล่าว หรือมีหลอดเลือดที่ปากทวารโป่ง พอง
- อาจคลำพบม้ามโต (ก้อนเนื้อในช่องท้องด้านซ้ายตอนบน)
- อาจมี อาเจียนเป็นเลือด และ/หรือ อุจจาระเป็นเลือด
- และอาการอื่นๆที่จะต่างกันในผู้ป่วยแต่ละรายจากสาเหตุที่ต่างกัน เช่นอาการของ
- ตับแข็ง
- ตับอักเสบ
- ไวรัสตับอักเสบ
- หัวใจวาย
อนึ่ง แนะนำอ่านเพิ่มเติมรายละเอียดของโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุได้จากเว็บ haamor.com
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
เมื่อมีอาการดังกล่าวในหัวข้อ’อาการฯ’ ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเฉพาะในผู้มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวใน ‘หัวข้อปัจจัยเสี่ยงฯ’
อนึ่ง ผู้มีปัจจัยเสี่ยงเกิดความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อการตรวจสุขภาพทุกปี และ/หรือตามแพทย์นัด เพื่อตรวจให้พบโรคความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงแต่เนิ่นๆ ที่จะช่วยทำให้การรักษามีประสิทธิผลสูงขึ้น
แพทย์วินิจฉัยความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงอย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงได้จาก
- การซักถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ที่สำคัญ เช่น อาการผู้ป่วย ประวัติปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การดื่มสุรา การมีเพศสัมพันธ์ การใช้ยาต่างๆ การเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ
- การตรวจร่างกาย ที่รวมถึงการตรวจคลำช่องท้องดูความผิดปกติต่างๆ เช่น ตับโต ม้ามโต หรือมีน้ำในช่องท้อง
- การตรวจเลือดดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด(ซีบีซี/CBC)
- การตรวจเลือดดู การทำงาน ของตับ ,ของไต
- การตรวจภาพ ตับ ม้าม และ/หรือช่องท้องด้วย อัลตราวาวด์ และ/หรือเอกซเรย์คอมมิวเตอร์
- การตรวจวัดขนาดหลอดเลือดพอร์ทัลตับด้วย อัลตราซาวด์เทคนิคพิเศษ
- การตรวจวัดความดันในหลอดเลือดพอร์ทัลตับ
- และอาจมีการตรวจสืบค้นอื่นๆเพิ่มเติมตามสิ่งผิดปกติที่แพทย์ตรวจพบ หรือตามอาการผู้ป่วย เพื่อหาสาเหตุ เช่น
- การตรวจเลือด ดูค่า สารภูมค้มกัน หรือสารภูมิต้านทาน เพื่อการวินิจฉัย ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบ ซี เป็นต้น
รักษาความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงอย่างไร?
แนวทางการรักษาความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูง ได้แก่ การลดความดันในหลอดเลือดพอร์ทัลฯ, การรักษาสาเหตุ, และการรักษาประคับประคองตามอาการ
ก. การลดความดันในหลอดเลือดพอร์ทัลตับ เช่น
- การใช้ยาต่างๆ: เช่น ยากลุ่ม นอนซีเล็กทีฟเบต้าบล็อกเกอร์(Non selective beta blocker ย่อว่า NSBB)เพื่อช่วยให้เลือดในระบบเลือดดำพอร์ทัลตับไหลเวียนดีขึ้น
- การใช้เทคนิคทางรังสีร่วมรักษา/การผ่าตัดเพื่อใส่ท่อช่วยระบายเลือดจากหลอดเลือดพอร์ทัล TIPSS หรือ TIPS (Transjugular intrahehatic portal system shunt)
- การผ่าตัดเชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนทางไหลของเลือดดำของอวัยวะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเกิดความดันหลอดเลือดพอร์ทัลฯสูง เพื่อไม่ให้เลือดเข้าสู่หลอดเลือดพอร์ทัลฯ เช่น ผ่าตัดหลอดเลือดเพื่อเชื่อมต่อหลอดเลือดดำของม้ามเข้ากับหลอดเลือดดำของไต ที่ส่งผลให้เลือดดำจากม้ามไหลสู่หลอดเลือดดำใหญ่ช่องท้องผ่านทางหลอดเลือดดำไตแทน
ข.การรักษาต้นสาเหตุ เช่น การรักษา โรคตับแข็ง, การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี, โรคไวรัสตับอักเสบซี เป็นต้น (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม วิธีรักษาโรคต้นเหตุต่างๆได้ในเว็บ haamor.com)
ค. การรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น
- การใช้ยาขับน้ำ/ยาขับปัสสาวะ ร่วมกับ ลดอาหารมีเกลือโซเดียมสูง/อาหารเค็ม เพื่อลดอาการบวมตามอวัยวะต่างๆที่รวมถึงลดน้ำในช่องท้อง/ท้องมาน
- การรับประทานอาหารแต่ละมื้อให้น้อยลงแต่เพิ่มปริมาณมื้อขึ้น เพื่อลดอาการแน่นท้อง
- การรักษาโรคริดสีดวงทวาร ที่เป็นผลข้างเคียงจากมีความดันในหลอดเลือดพอร์ทัลสูง
- อาจรวมถึงการผ่าตัดม้ามกรณีม้ามโตมากจนเสี่ยงต่อการแตกของม้าม
ดูแลตนเองอย่างไร?
ผู้ป่วยโรค/ภาวะความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูง ควรดูแลตนเอง ที่สำคัญ คือ
- ปฏิบัติตาม แพทย์ พยาบาล แนะนำ
- กินยา/ใช้ยาต่างๆที่แพทย์สั่งให้ถูกต้อง ไม่หยุดยาเอง
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับการมี โรคตับ แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่อง
- อาหารในโรคตับ
- อาหารในโรคตับแข็ง
- อาหารในโรคไขมันพอกตับ
- อาหารในโรคตับอักเสบ
- เลิก/ไม่ดื่มสุรา
- เลิก/ไม่สูบบุหรี่เพราะจะทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งจนส่งผลให้หลอดเลือดตีบ จึงส่งผลต่อเนื่องให้ความดันในหลอดเลือดสูงขึ้น
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ), ไม่ใช้ยาเสพติด, ไม่สำส่อนทางเพศ, ใช้ถุงยางอนามัยชายทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- ควบคุม ดูแล รักษา รวมถึงป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่เป็นต้นเหตุ/สาเหตุ
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ตามคำแนะนำของแพทย์/กระทรวงสาธารณสุข
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด?
ผู้ป่วยโรค/ภาวะความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูง ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัดเมื่อ
- อาการต่างๆเลวลง เช่น น้ำหนักตัวเพิ่มอย่างรวดเร็วจากท้องมาน ขาบวมมากขึ้น
- มีอาการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น เลือดออกจากริดสีดวงทวารมาก อาเจียนเป็นเลือด
- มีผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์สั่งจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น วิงเวียนศีรษะมาก ท้องผูกหรือท้องเสียมาก นอนไม่หลับทุกคืน
- กังวลในอาการ
ผลข้างเคียงจากความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงมีอะไรบ้าง?
ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงมีผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่
- หลอดเลือดดำของอวัยวะต่างๆที่เป็นสาเหตุ เกิดโป่งพอง และแตกได้ง่าย เช่น
- หลอดเลือดดำหลอดอาหารโป่งพอง และ/หรือ เกิดร่วมกับหลอดเลือดดำกระเพาะอาหารโป่งพอง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการอาเจียนเป็นเลือด ที่อาจรุนแรงจนเสียชีวิต
- และหลอดเลือดทวารหนักโป่งพอง ส่งผลเกิดริดสีดวงทวาร ที่ส่งผลให้เกิดอุจจาระเป็นเลือด
ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของ ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลตับสูงมีได้ตั้งแต่ รุนแรงปานกลาง จนถึงรุนแรงมากจนส่งผลให้เสียชีวิต ซึ่งขึ้นกับหลายปัจจัย ที่สำคัญคือ
- สาเหตุ
- ความรุนแรงของสาเหตุ
- ความรุนแรงของอาการ
- ตำแหน่งที่เกิดโรคนี้
- และการปฏิบัติตน/การดูแลตนเองของผู้ป่วยตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล โภชนากร
ดังนั้น การพยากรณ์โรค จึงแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย แพทย์ผู้รักษาผู้ป่วยเท่านั้นที่จะเป็นผู้ให้การพยากรณ์โรคที่เหมาะสมได้
ป้องกันความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงได้อย่างไร?
เมื่อดูจากสาเหตุ ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงสามารถป้องกันได้ ยกเว้นสาเหตุที่เกิดตั้งแต่กำเนิด โดยการป้องกันที่มีประสิทธิผล คือ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่ทำให้เกิดโรคตับแข็ง(อ่านเพิ่มเติมรายละเอียดในเว็บhaamor.com)
- ไม่ดื่ม/เลิกสุรา เป็นการป้องกันที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นสาเหตุหลักของโรคโรคตับแข็ง
- ไม่สูบบุหรี่/เลิกบุหรี่
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ)
- ไม่ใช้ยาเสพติด
- ไม่สำส่อนทางเพศ, ใช้ถุงยางอนามัยชายทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี
บรรณานุกรม
- R.E.Nakhleh.Cinical Liver Disease 2017; 10 (3):57-62
- Y. IwakiriClin. Liver Dis. 2014 ; 18(2): 281–291
- https://emedicine.medscape.com/article/182098-overview#showall [2019,Oct26]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Portal_hypertension[2019,Oct26]
- https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/4912-portal-hypertension[2019,Oct26]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Hepatic_portal_system[2019,Oct26]