กระดานสุขภาพ

ตั้งครรภ์สามารถใช้ glycerine suppositories ได้ไหมคะ
Juda*****z

5 มิถุนายน 2556 06:53:31 #1

ตั้งครรภ์ได้ 24 สัปดาห์ ค่ะ เริ่มถ่ายยาก ล่าสุดท้องผูกมาก ตอนเบ่งถ่ายมีติ่งๆออกมาที่ทวาร แล้วรู้สึกเจ็บ แต่ผ่านไปคืนนึง ติ่งมันก็เหมือนผลุบกลับเข้าไปในทวารหนักค่ะ แต่กลัวและกังวลมากว่าการถ่ายครั้งต่อไป ติ่งนั้นมันจะปลิ้นกลับออกมาอีก

ทั้งที่ก่อนตั้งครรภ์ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย อยากเรียนถามคุณหมอค่ะว่า สามารถใช้ glycerine แบบเหน็บเหน็บเพื่อบรรเทาอาการได้ไหมคะ จะเป็นอันตรายหรือมีผลเสียกับลูกไหมคะ และควรเหน็บเวลาใด ปริมาณเท่าใดคะ ขอบคุณค่ะ

 

อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.82 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

5 มิถุนายน 2556 16:07:33 #2

เรียน คุณ Judazz,

ปกติหญิงตั้งครรภ์มักจะมีอาการท้องผูก ถ่ายยากเป็นปกติอยู่แล้วนะครับ เนื่องจากเด็กในครรภ์มีขนาดโตขึ้น และมีการขยายตัวของมดลูกไปกดทับการเคลื่อนไหวของลำไส้ หรืออาจเกิดจากธาตุเหล็กในวิตามินบำรุงเลือด หรือระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้กล้ามเนื้อของลำไส้บีบตัวน้อยลง

โดยปกติจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การรับประทานอาหารให้มีกากใยสูงขึ้น หรือดื่มน้ำสะอาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากในหญิงมีครรภ์มักดื่มน้ำน้อยลง เนื่องจากไม่สะดวกที่จะเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ยังไม่ได้ผล แนะนำให้รับประทานกลุ่มที่เพิ่มกากใยในอุจจาระ เช่น เม็ดแมงลัก 1-2 ช้อนชา ผสมน้ำให้พอง แล้วค่อยดื่ม และดื่มน้ำตามอย่างน้อย 1-2 แก้ว หรือหากเป็นยาสำเร็จรูปอาจใช้พวก psyllium seed (Metamucil, mucillin หรืออื่น ๆ) ผสมน้ำสะอาด คนให้เข้ากัน แล้วรีบดื่ม หลังจากนั้นให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อให้ใยอาหารพองตัวในลำไส้ หรือ Agiolax เป็นเกล็ดของเมล็ดพืช ให้รับประทานเป็นช้อน ๆแบบไม่ผสมน้ำ แล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ อย่างน้อย 2-3 แก้ว เพื่อให้ใยอาหารพองตัว

มีคำแนะนำให้รับประทาน lactulose ซึ่งเป็นกลุ่มที่ดึงน้ำให้เข้ามาในลำไส้มาก ๆ ทำให้อุจจาระนิ่ม และขับถ่ายได้ง่าย
กรณี glycerine เหนับทวารหนัก เป็นตัวช่วยหล่อลื่น ทำให้เวลาถ่ายอุจจาระไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดเบ่ง แต่หากไม่มีกากใย ก็จะไม่ช่วยเรื่องการถ่ายอุจจาระนะครับ

บางกรณีถ้าเป็นมาก ๆ คุณหมออาจแนะนำให้ใช้ชามะขามแขก เพื่อช่วยกระตุ้นลำไส้ให้มีการขับถ่าย แต่ไม่นิยมใช้ติดต่อกันนานเกิน 7 วัน

สรุป

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การรับประทานอาหาร แบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ เพื่อให้ไม่อึดอัด กระเพาะอาหารย่อยได้ทัน การรับประทานวิตามินเสริมธาตุเหล็ก ควรดื่มน้ำผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว เพื่อให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้เพิ่มขึ้น เหลือในลำไส้น้อยลง ส่วนแคลเซียม ก็ควรรับประทานหลังอาหารเช่นเดียวกัน แต่ควรแยกมื้อจากธาตุเหล็ก อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เนือ่งจากอาจแย่งการดูดซึมซึ่งกันและกัน
  2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้น ผัก ผลไม้ที่มีกากใยสูงเพิ่มขึ้น เช่น ส้ม ฝรั่งสุก มะละกอ กล้วยน้ำว้า โดยรับประทานสลับกันไป ลดผลไม้รสหวาน เนื่องจากคนท้องมักเสี่ยงต่อการเกิดน้ำตาลในเลือดสูงอยู่แล้ว
  3. ดื่มน้ำสะอาดให้ไดอย่างน้อย วันละ 2 ลิตร เพื่อให้อุจจาระนิ่มขึ้น เวลาถ่ายจะได้ไม่ต้องเบ่ง จนเสี่ยงต่อการเกิดติ่งเนื้อ หรือริดสีดวงทวารหนัก
  4. อาจรับประทานเมล็ดแมงลักผสมน้ำสะอาด ทิ้งให้พองแล้วดื่มน้ำตามมาก หรือ อาจใช้ยาพวกเพิ่มกากอุจจาระที่เป็นยี่ห้อสำเร็จรูป แต่อย่าลืมดื่มน้ำตามมาก ๆ ถ้ามีอุจจาระมาก แต่เพียงถ่ายลำบาก ถ่ายแล้วเจ็บ อาจใช้กลีเซอรีน เหน็บทวารหนักก็ได้ มักใช้เวลาเช้า เนื่องจากมักทำให้ถ่ายเร็ว ไม่เหมือนยารับประทานที่มักให้รับประทานก่อนนอน เนื่องจากต้องอาศัยเวลากว่าจะออกฤทธฺ์
  5. ถ้ายังไม่ได้ผล อาจทดลองใช้ชามะขามแขก ก่อนนอน
  6. ถ้ายังท้องผูกมาก คงต้องปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมต่อไป เช่น การสวนทวารหนัก เป็นต้น

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล