เรียน คุณ db32e,

จากข้อมูลของบริษัทยา ciprofloxacin เนื่องจากเป็นการรับประทานยาระยะสั้น ๆ ยังไม่พบรายงานว่าเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (ยาตีกัน) จนลดระดับลง แต่ตัวยาคุมกำเนิดอาจดูดซึมเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว โดยปกติถ้ามีอาการท้องเสีย จะเว้นช่วงเวลาจนอาการท้องเสียดีขึ้นก่อนนะครับ

ส่วนใหญ่ถ้ามีอาการช่วงกลางคืน จะเลื่อนไปเป็นช่วงเวลาเช้าแทน ซึ่งอาการท้องเสียมักดีขึ้นแล้ว แต่ถ้ารับประทานยาไปไม่ถึง 2 ชั่วโมงแล้วมีอาการท้องเสีย ไม่แนะนำให้รับประทานยาเพิ่มนะครับ เนื่องจากตัวยาจะมีการดูดซึมไปแล้วบางส่วน ระหว่างนั้น แนะนำให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยแทน หรือในบางรายถ้ามีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว ถ่ายบ่อย แบบคุณ แนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไว้ก่อน เนื่องจากช่วงระหว่างมีเพศสัมพันธ์อาจมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวออกมาอีก หรือช่วงนั้นเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำได้

การรับประทานยาเพิ่ม อาจได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ได้ หากไปตกอยู่ในช่วงที่เม็ดยาไปอยู่ที่ลำไส้ และมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว ยา 2 เม็ด ก็อาจไม่ได้ผล แนะนำให้เลื่อนเวลาจะดีกว่านะครับ เภสัชกรประจำโรงพยาบาลที่คุณไปตรวจรักษาจะตอบได้ละเอียดกว่า เนื่องจากต้องมีการจัดมื้อยาแต่ละรายการและอาหารให้เป็นลำดับคราวหน้า ลองแจ้งแฟนคุณนะครับ ว่ากำลังป่วยอยู่ ควรงดไว้ก่อน หากเขารักคุณจริง

หวังว่าจะตอบคำถามคุณนะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

หลังจากทานยาตอน4 ทุ่ม ก็ไม่มีอาการท้องเสียใดๆค่ะ วันรุ่งขึ้นก้ไม่มีอาการท้องเสียแล้ว จึงอยากเรียนถามว่า การตกไข่จะใช้ระยะเวลานานมั้ยค่ะ หลังจากยาคุมลดประสิทธิภาพ

หมอขอให้ความเห็นในกรณีของอวัยวะเพศหดตัวส่งผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ และ ประสิทธิภาพของยาเพิ่มเติมนะครับ

ซึ่งหากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนในเรื่องประสิทธิภาพของยานั้น โดยปกติแล้ว หากทานครบอยู่ทุกวันและเลื่อนเวลาไปเล็กน้อยนั้น โดยที่ไม่ได้ลืมหรือขาดไป ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพการป้องกันไม่มากครับ ดังนั้น โดยรวมทั้่งสองกรณีนี้แล้ว หมอคิดว่า ในกรณีนี้นั้น ไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ

และอย่างที่หมอกล่าวไป หมอคิดว่า ปัจจัยเรื่องประสิทธิภาพของยาในกรณีนี้น้อยมากและไม่ทำให้ไม่สามารถที่จะยับยั้งการตกไข่ได้ ดังนั้น หมอคิดว่า ไม่ต้องกังวลครับ