กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนผิดปกติ
Cand*****y

7 ตุลาคม 2556 15:33:29 #1

มีเรื่องกังวลใจค่ะ

ขอท้าวความก่อนนะคะ คือเป็นคนที่มีรอบเดือนไม่สม่ำเสมอจะห่าง 30 วันเป็นต้นไป ไม่แน่ไม่นอน เวลามีจะมี 6-7 วัน จะมีเยอะช่วง 1-3วันแรกค่ะ ก่อนจะเป็นจะมีอาการท้องอืด ปวดท้อง 2-3 วัน อารมณ์แปรปรวนง่าย คัดหน้าอก ร้อนๆหนาวๆช่วงกลางคืน เพลียๆ

และคือว่าหนูมีประจำเดือนวันที่ 1-6 กันยายน ประมาณก่อนวันที่ 18 จะมีตกขาวเยอะ(ก็จะมีเยอะเป็นปกติค่ะ) 4-5วัน และเมื่อวันที่ 18 ได้มีความสัมพันธ์กับแฟน คือ ช่วยแฟน แต่ไม่มีการสอดใส่ใดๆค่ะ แล้วไม่แน่ใจว่าเชื้อจะเลอะมือรึเปล่า แล้วเอามือไปเผลอจับของสงวนของตัวเอง แล้วเราก็ไปทำความสะอาดของเราตามปกติ (1)แบบนี้ท้องได้มั้ยคะ เพราะอ่านตามเว็บไซต์ต่างๆเขาบอกว่ามีโอกาสเลยไม่แน่ใจ และเมื่อวันที่ 26-28 กันยาจะมีอาการท้องอืด แต่ไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าตั้งครรภ์เช่น ง่วงนอนมากๆ คลื่นไส้ เป็นต้น วันที่ 29 กันยาจะมีเลือดสีแดง ชมพูออกแบบติดกระดาษทิชชู่ พอวันที่ 30 ก็มีเลือดออกสีแดงสด น้อยมากๆ แค่เป็นวงเล็กๆ ประมาณฝาขวดน้ำ แล้วก้มีแบบติดกระดาษทิชชู่อีกประมาณ 2 วันแต่เป็นสีคล้ำๆแล้วจะเหมือนกับปนออกมากับตกขาวและเยอะด้วยค่ะ(คือจะเป็นใสๆ เหนียว และมีสีเลือด) แล้วก็หายไป เลยทำให้กังวล เลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์และตรวจเช้าในวันที่ 2 ก็ขึ้น1ขีด เลยซื้อยาสตรีมาทาน ทานได้ 3 วันแล้วคะ (2)อยากทราบว่าเลือดที่ออกใช่ประจำเดือนรึป่าว (3)ถ้าเป็นประจำเดือนเพราะสาเหตุใดถึงเป็นแบบนี้ (4)จะทำเช่นไรถึงจะมีประจำเดือนที่ปกติ (5)เป็นไปได้มั้ยที่ประจำเดือนคลาดเคลือนเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ทานอาหารไม่เป็นเวลา (นน.ลด1-2กก.)(6)แล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไรต่อจากนี้ หรือควรซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจอีกรอบคะ

ขอบคุณค่ะ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.40 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

9 ตุลาคม 2556 03:43:43 #2

หมออาจขอแยกเป็นประเด็นๆนะครับ

1. การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์นะครับ ดังนั้น ในเรื่องการตั้งครรภ์ไม่ตั้งครรภ์แน่นอน ยิ่งหากตรวจปัสสาวะในช่วงดังกล่าวแล้ว เชื่อถือไม่มากครับ ว่าไม่ตั้งครรภ์แน่นอน

2. อาการต่างๆที่เป็นนั้น เช่น ง่วงนอนมากๆ คลื่นไส้ ท้องอืด ไม่ได้เป็นอาการของการตั้งครรภ์นะครับ เป็นอาการของอาการก่อนมีประจำเดือนครับ ซึ่งหากตั้งครรภ์จริง ช่วงนี้ ก็จะไม่มีอาการอะไรเลยนะครับ

3. สาเหตุของประจำเดือนที่มาไม่ตรงรอบ มากะปริดกะปรอยในช่วงวัยนี้ มักเกิดจากสาเหตุบางประการที่ที่มีผลต่อการตกไข่ จึงทำให้การหลั่งฮอร์โมนผิดปกติไป อาทิ เช่น ความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย นอนดึก ไม่เป็นเวลา ช่วงใกล้สอบ ช่วงปรับตัวต่างๆ น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งหากผิดปกติมากจนรวบกวนชีวิตประจำวัน ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและปรับรอบประจำเดือนนะครับ

4. การทานยาประเภทนี้ หรือ ยาขับเลือดต่างๆ นั้น ตามความเห็นของหมอคิดว่า จะทำให้ ประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจไม่มา มาช้า มากะปริดกะปรอย หรือ มาปริมาณมากก็ได้ครับ

เนื่องจาก ในตัวยาจำพวกนี้ จะมีสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง ที่เรียกว่า phytoestrogens ตัวนี้จะมีผลในแง่ยับยั้งการตกไข่ เนื่องจากร่างกายจะรู้สึกว่า มีฮอร์โมนตัวนี้แล้ว ก็เลย มีการยับยั้งไม่ให้ เกิดการเจริญเติบโตของไข่ทำให้ไม่มีการตกของไข่ และ ยังมีผลกระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกให้เจริญไปเรี่อยๆอีกด้วย อาจมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูก อาจเจริญเติบโต หนาตัว แบ่งตัว ไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ทานอยู่ ผลสุดท้ายทำให้ ไข่ไม่ตก และ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวจาการกระตุ้นจาก phytoestrogens เป็นผลให้ ไม่มีประจำเดือน ประจำเดือนไม่มา ต่อมา เมื่อหนาตัวจนร่างกายไม่สามารถสร้างเลือดไปเลี้ยงได้เพียงพอ ก็จะเกิดการสลายตัวออกมา (progesterone breakthrough bleeding) อย่างมาก อาจเป็นผลให้ เลือดออกมาปริมาณมากๆ หลายๆวันได้ครับ ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอแนะนำให้หยุดยาดังกล่าวก่อนนะครับ ระหว่าง ควรงดเพศสัมพันธ์ก่อน และ ลองสังเกตเรื่องประจำเดือน หากประจำเดือน มาปริมาณมาก มีอาการอ่อนเพลีย หรือ ไม่มาใน 2 สัปดาห์ หมอแนะนำให้มาพบสูตินรีแพทย์ เพื่อรับยาปรับรอบประจำเดือนครับ

Cand*****y

9 ตุลาคม 2556 08:54:38 #3

ขอบคุณค่ะ :)