กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มาหลังกินยาคุมธรรมดาและฉุกเฉิน
Acas*****1

18 พฤษภาคม 2556 08:33:15 #1

สวัสดิ์ครับคุณหมอ  คือแฟนผมกินยาคุม[anna]ได้ 2 แผงพอจะขึ้นแผงที่ 3 เราก็มีเพศสัมพันธ์กันครับ ซึ่งวันนั้นแฟนผมหมดประจำเดือนวันแรกพอดี แต่ก็กินยาแผงที่ 3 ตามปกตินะครับวันต่อมาเราก็มีอะไรกันอีก แฟนผมก็กินเม็ดที่ 2 เหมือนเดิม แต่พอวันที่ 3 แฟนผมไม่ได้กิน แต่ว่าเปลี่ยนไปกินยาคุ้มฉุกเฉิน[postinor]แทนอะครับ แล้วก็เลิกกินยาคุมธรรมดาไปเลย แล้วหลังจากกินยาคุ้มฉุกเฉินครบสองเม็ดแล้ว 3วัน ประจำเดือนแฟนผมก็มาปกติเยอะเท่าเดิม แต่ว่าห่างครั้งที่แล้วแค่ 6 วันเองครับ       ตอนนี้แฟนผมประจำเดือนไม่มาจากครั้งสุดท้ายก็ 33 วันแล้วครับ ไม่แน่ใจว่าแฟนจะท้องเปล่า แต่ว่าตอนมีเพศสัมพันธ์กันผมก็ใส่ถุงยางทุกครั้งเลยนะครับ ช่วยตอบหน่อยนะครับว่าแฟนผมผิดปกติอะไรรึเปล่า

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 66 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.24 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พ*****

22 พฤษภาคม 2556 08:22:08 #2

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอร์โรนในระดับสูง ซึ่งใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์โดยมีกลไกคือ ฮอร์โมนระดับสูงนี้จะไปเปลี่ยนแปลงมูกที่ปากมดลูกทำให้อสุจิเคลื่อนตัวได้ไม่ดี และเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อให้ไม่เหมาะสมในการฝังตัวของตัวอ่อน เมื่อรับประทานยาเข้าไปแล้วร่างกายจะมีฮอร์โมนนี้ในระดับสูงมากอยู่ระยะหนึ่ง และปริมาณฮอร์โมนจะค่อยๆลดลง และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกนั้นหลุดลอกออกมาคล้ายกับการเป็นประจำเดือน โดยมักจะมีเลือดออกหลังรับประทานยาไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นผลจากยา ไม่ได้นับเป็นรอบประจำเดือน และหลังรับประทานยาแล้ว อาจทำให้ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนไปจากปกติ บางรายอาจจะมาเร็ว มาช้าซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนไปได้นานเป็นเดือน โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานยาบ่อยๆ เนื่องจากฮอร์โมนที่รับประทานเข้าไปมีผลทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนไปอย่างมาก ลักษณะเช่นนี้ทำให้การคาดคะเนเรื่องการตั้งครรภ์หรือการมีประจำเดือนเป็นไปได้ยาก

ดังนั้นเลือดที่ออกหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจึงไม่ได้ถิอว่าผิดปกติ แต่ระหว่างนี้การคาดคะเนเรื่องการตกไข่ การตั้งครรภ์ หรือการเป็นประจำเดือนรอบถัดไปอาจจะคลาดเคลื่อนไปจากเดิม หากจะมีเพศสัมพันธ์จึงควรป้องกันให้ดีหากยังไม่พร้อมจะมีบุตร เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ไม่แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินติดต่อกันมากกว่าเดือนละ 2 ครั้ง เนื่องจากจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนมากและอาจทำให้ประจำเดือนผิดปกติอย่างมาก และการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ควรใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่น แม้รับประทานอย่างถูกต้องและตรงเวลาก็ยังมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้ และหากตั้งครรภ์ในระหว่างที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินจะเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูกมากกว่าคนปกติ ดังนั้นหากมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ และยังไม่พร้อมจะมีบุตรแนะนำให้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดีกว่า เช่น ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (แบบ 21 หรือ 28 เม็ด) ซึ่งสามารถคุมกำเนิดได้ดี และยังมีประโยชน์ในเรื่องการควบคุมรอบประจำเดือนให้สม่ำเสมอ ลดอาการปวดประจำเดือน และบางชนิดสามารถช่วยลดการเกิดสิว หรืออาจจะเลือกใช้การคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัย ซึ่งนอกจากสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี ยังสามารถป้องกันการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์ได้ค่ะ