ในเรื่องของการตั้งครรภ์นั้น หมอคิดว่า หากใส่ถุงยางก่อนมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่่น่าจะตั้งครรภ์นะครับ ส่วนสาเหตุของเลือดที่ยังไม่มา หรือมาไม่ตรงกำหนดหลังหยุดยาคุมกำเนิด นั้น มักเกิดจาก ในช่วง 2-3 เดือนแรกของการหยุดยาคุมกำเนิดนั้น มักจะยังไม่มีการตกไข่ตามธรรมชาติครับ ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายอาจไม่ปกติเป็นตามธรรมชาติ มีผลให้ประจำเดือนไม่มา มาช้า หรือ กะปริดกะปรอยได้ครับ แต่หลังจากนี้ หมอคิดว่า หากไม่มีสาเหตุอื่นๆที่มีผลต่อการตกไข่ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก นอนน้อย น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (polycystic ovarian syndrome) ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาสตรี ยาขับเลือด ยาสมุนไพร ต่างๆ เป็นต้นแล้ว ประจำเดือนก็มักจะมาตามปกติครับ

ดังนั้น หมอคิดว่า ด้วยเหตุผลที่หมอกล่าวไป อาจสังเกตุอาการไปก่อนในช่วงนี้ได้ แต่หากประจำเดือนไม่มาใน 2-3 สัปดาห์ หมอแนะนำให้มาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและอาจต้องใช้ยาช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบก่อนในช่วงแรกครับ

ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ขอสอบถามเพิ่งเติมหน่อยนะค่ะ

อากานปวดท้องน้อย เหมือนประจำเดือนจะมา แต่ไม่มา เป้นอาการปกติของคนเพิ่งหยุดทานยาคุมไหมค่ะ

ตอนนี้อาการปวดท้อง้อยหายไป แต่ประจำเดืแนก้ยังๆม่มาค่ะ

รบกวนคุณหมอหน่อยนะค่ะ 

อาการปวดท้องน้อยนั้น อาจไม่เกี่ยวข้องกับยาคุมกำเนิดหรอกนะครับ แต่ในช่วงที่ทานยาคุมนั้น จะทำให้อาการปวดประจำเดือนลดลงน้อยลงในคนที่มีปัญหาปวดประจำเดือนนะครับ

ส่วนประจำเดือนนั้น หมอคิดว่า หากไม่มาหรือมาช้าเช่นนี้ หลังหยุดยาคุมกำเนิดในช่วง 2-3 เดือนแรกนั้น มักเกิดจากรอบนี้ ไม่มีการตกไข่ ดังที่หมอกล่าวไป ทำให้มีอาการดังกล่าวครับ