ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้มีการคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสวมถุงยางอนามัย การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะหากการมีเพศสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นในช่วงที่ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ คือช่วง 14 วันก่อนการมีประจำเดือนมารอบถัดไป ( เช่น วันที่ 14 นับจากการมีประจำเดือนมาวันแรกของผู้ที่มีรอบประจำเดือนห่าง 28 วัน และวันที่ 18 นับจากการมีประจำเดือนมาวันแรกของผู้ที่มีรอบประจำเดือนห่าง 32 วัน ) โดยที่ตัวอสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ในมดลูกได้นาน 2 วันหรืออาจจะมากกว่านั้น ดังนั้นหากมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และประจำเดือนขาดไปก็มีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้ หากตรวจครั้งแรกไม่พบการตั้งครรภ์ให้เว้นระยะรออีก 1 สัปดาห์แล้วตรวจซ้ำอีกครั้งค่ะ

ถ้าหากประจำเดือนมาช้ากว่าปกติโดยไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ก็อาจจะเกิดได้จาก ภาวะไข่ไม่ตกซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

1. ความเครียด
2. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
3. โรคหรือความเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ , Polycystic ovarian syndrome
4. น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างมากหรือรวดเร็ว

ดังนั้นหากตรวจยืนยันแล้วไม่พบการตั้งครรรภ์ หากไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย ให้รอสังเกตอาการ ถ้าหากประจำเดือนขาดไปนานเกิน 1 เดือนแนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์ค่ะ