กระดานสุขภาพ

รบกวนคุณหมอช่วยทีครับ ร้อนใจมาก
Anonymous

8 กันยายน 2561 14:51:00 #1

รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำทีครับ ตอนนี้ร้อนใจมาก

ก่อนอื่นต้องเล่าย้อนนืดนึงครับ เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว

ผมมีอะไรกับแฟนตามปกติ มีมาหลายปี ไม่ได้ป้องกันครับ

แล้วผมเรื่มมีอาการเจ็บที่อวัยเพศเวลาหลังเสร็จกิจ

แล้วเหมือนผิวหนังหุ้มอวัยวะเหมือนแห้งๆ มีเจ็บบ้างนิดหน่อย

แล้วก็หายไป จนมาเมื่อ 1 เดือนก่อน ผมเริ่มมีอาการอีกครั้ง

จึงไม่สบายใจ จึงไปตรวจเลือดและโรคอื่นๆ ผลออกมาเลือดปกติ จึงคิดว่าผิวหนังแห้ง เลยเปลี่ยนใช้สบู่เด็กมาล้างแล้วก็ทาออยล์

ผลคือดีขึ้นแต่ยังเจ็บเวลาที่เสียดสี เช่น เวลาช่วยตัวเอง หรือเวลามีอะไรกัน ล่าสุด ตอนนี้เป็นเยอะ เหมือนผิวหนังแตก มีตุ่มเล็กๆด้วยครับ ผมควรทำอย่างไร

มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 10 วันก่อน

ตรวจเลือดครั้งล่าสุด 16 สิงหาคม 61

รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

ผมจะรอฟังคำแนะนำ เพราะตอนนี้เครียดมากครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9c6e8-45594-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9c6e8-45594-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/9c6e8-45594-3.jpg
อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 181ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.95 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

9 กันยายน 2561 00:53:32 #2

อัพเดทครับ พอเช้ามา เริ่มยุบและไม่แสบเหมือนเมื่อคืน แต่ถ้าสังเกตุจะมีผืนแดงเล็กๆอยู่ รวมถึงผิวลอกขาวๆ ต่างจังหวัดไม่มีคลินิคกามโรค แบบนี้ไปหาโรงพยาบาลปกติมีแพทย์เฉพาะเหมือนกันไหมครับ สอบถามเป็นความรู้ [img]https://www.picz.in.th/images/2018/09/09/fEmdXg.jpg[/img] [img]https://www.picz.in.th/images/2018/09/09/fEm7zW.jpg[/img]
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 กันยายน 2561 04:11:11 #3

  • ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นจุดแดงๆหลายแห่งที่หนังหุ้มและส่วนหัวอวัยวะเพศ มีบางจุดเป็นแผลตื้นๆ ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง ไม่เคยมีประวัติเป็นแผลเริมมาก่อน อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้ เช่น สบู่ยา ยาหล่อลื่นหรือออยล์ก็อาจจะทำให้แพ้ได้ และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน
  • แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด ในกรณีที่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยงหรือมีประวัติเคยเป็นเริม ก็อาจจะเป็นเริม แต่ดูจากรูป ไม่เหมือนเริม เพราะถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง
  • แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน
  • ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด
  • เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม
  • ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
  • รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ
  • เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ
  • แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป น่าจะเกิดจากการแพ้ร่วมกับเชื้อรา แนะนำหาหมอครับ