กระดานสุขภาพ

ขอคำแนะนำสำหรับการกินยาคุมกำเนิด
Anonymous

5 สิงหาคม 2561 00:58:22 #1

พอดีมีเพศสัมพันธุ์กับแฟนบ่อยครั้ง แต่สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เลยอยากกินยาคุมกำเนิด เลยอยากรู้ว่า กินครั้งแรกต้องกินยังไง ถ้ากินแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรไหม เช่นสิวขึ้น แล้วเราเป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติ มาเดือนเว้นเดือน เคยไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้ว หมอให้ยาประบฮอร์โมนมากิน 3 เดือน พอกินครบ3เดือน ประจำเดือน ก็มาเดือนเว้นเดือนอีก เป็นเพราะอะไรคะ
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.59 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

5 สิงหาคม 2561 17:00:04 #2

เรียน คุณ ae75d,

จากคำถามของคุณ ขอแยกตอบเป็นประเด็นนะครับ

1. หากยังไม่ได้แต่งงาน การใช้ถุงยางอนามัยก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมนะครับ เพราะนอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน (หนองในเทียม) พยาธิในช่องคลอด ไวรัสเริม ไวรัสตับอักเสบชนิดบี/ซี หรือโชคร้ายสุดคือไวรัสเอชไอวี ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV - human Papillomavirus) ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง และ หูดหงอนไก่ / มะเร็งองคชาติในเพศชายได้อีกด้วย

2. หากต้องการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดรายเดือน ต้องพิจารณาว่ามีข้อห้ามใช้ใดๆหรือไม่ เช่น

    • - โรคไมเกรนชนิดที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา
    • - โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือลิ้นหัวใจ
    • - โรคหลอดเลือดดำส่วนปลายอุดตัน
    • - โรคมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งรังไข่
    • - โรคตับ หรือตับแข็ง
    • - เลือดออกจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ

2.1 การพิจารณาเบื้องต้นในการคัดเลือกยาคุมกำเนิด แพทย์มักพิจารณาเบื้องต้นจากลักษณะรูปร่างและรูปแบบการมีประจำเดือน ได้แก่

- ผู้ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่นชัด มักมีรูปร่างอกเอวชัดเจน รูขุมขนค่อนข้างเล็ก ละเอียด ขนบางหรือสีจาง ผิวค่อนข้างแห้งหรือผสม รูปแบบการมีประจำเดือน มักมาปริมาณมาก (อาจต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยวันละหลายแผ่น) จำนวนวันของประจำเดือนนาน 5-7 วัน รอบประจำเดือนมักอยู่ในช่วง 28-35 วัน แบบนี้เหมาะกับยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนปริมาณต่ำ หรือมีฮอร์โมนโปรเจสตินเด่นชัด เพื่อปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกาย

- ผู้ที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเด่นชัด มักมีรูปร่างตรง อกเอวไม่ชัดเจน รูขุมขนค่อนข้างกว้าง ผิวมัน ขนดกหรือหนา เป็นสิวง่าย รูปแบบการมีประจำเดือนมักมาปริมาณไม่มาก (อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยเพียงวันละ 1-2 ครั้ง) จำนวนวันมาค่อนข้างน้อย (ประมาณ 3-5 วัน) รอบประจำเดือนมักนานกว่า 35 วัน แบบนี้เหมาะกับยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่นชัด หรือฮอร์โมนที่ต้านกับโปรเจสติน เพื่อปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกาย

อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบ เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คัดตึงเต้านม คลื่นไส้ อาเจียน ฝ้า บวมน้ำ น้ำหนักขึ้น เลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือน ซึ่งบางอาการสามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้ เช่น รับประทานยาก่อนเข้านอน เพื่อลดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มหรือโซเดียมสูง เพื่อลดอาการบวมน้ำ
ส่วนการคัดเลือกประเภทฮอร์โมนที่เหมาะสมก็จะช่วยลดอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้

วิธีการรับประทานยา ส่วนใหญ่ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดจะมีชนิด 21 และ 28 เม็ด โดยจะเป็นส่วนที่เป็นตัวยา 21 เม็ด จากนั้นเว้นไป 7 วัน จึงเริ่มรับประทานยาแผงต่อไป เช่น รับประทานยาเม็ดสุดท้ายหมดวันที่ 21 เมื่อเว้น 7 วัน แผงต่อไปให้เริ่มรับประทานยาวันที่ 29 ปฏิบัติเช่นนี้ไปทุกเดือน ก็จะช่วยปรับรอบประจำเดือนให้มาเป็นรอบ 28 วันได้
ส่วนชนิด 28 เม็ดนั้นมี 2 แบบ คือ 21 +7 เม็ด และ 24 + 4 เม็ด โดย 7 เม็ด หรือ 4 เม็ดที่แตกต่างกันนั้น เป็นวิตามินหรือเม็ดแป้ง ใช้รับประทานให้ต่อเนื่องไป ป้องกันการลืมรับประทานยา หรือนับจำนวนวันที่เว้นยาไม่ถูกต้อง
การรับประทานยาแผงแรกนั้น ให้รับประทานยาเม็ดแรกในวันแรกที่มีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ และตัวยาสามารถยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ ตั้งแต่รับประทานยาเม็ดแรกครบ 24 ชั่วโมง (หรือช้าที่สุด ไม่ควรเกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน หากช้าเกินกว่านั้น โอกาสเสี่ยงที่จะมีไข่ตกก็จะเพิ่มขึ้น)

การรับประทานยาแผงต่อไปนั้น ก็ให้ปฏิบัติตามที่แจ้งข้างต้น คือรับประทานยา 21 (เว้นยา 7 วัน) หรือ 28 วัน ต่อเนื่องกันไป ไม่ต้องรับประทานยาเหมือนแผงแรกอีก (รายละเอียดการรับประทานยาแต่ละประเภท สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน)

คำแนะนำในการรับประทานยาคุมกำเนิดเพิ่มเติม :
1. รับประทานยาอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ โดยรับประ่ทานยาในช่วงเวลาก่อนเข้านอน ในช่วงเวลาเดียวกันของทุกคืน (เวลาคลาดเคลื่อนไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลืมรับประทานยา หรือระดับยาในเลือดไม่สม่ำเสมอตลอดวัน จนเกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้)

2. รับประทานยาพร้อมน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ เช่น ชา (ชาขาว ชาเขียว ชาแดง) กาแฟ โกโก้ นม (รวมถึงโยเกิร์ต) น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โซดา เป็นต้น หรือน้ำผลไม้บางชนิดหากดื่มปริมาณมาก หรือดื่มบ่อย ๆ ก็จะกระตุ้นให้ตับที่เป็นแหล่งกำจัดยา ผลิตเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้กำจัดยาได้เพิ่มขึ้น ร่างกายจึงกำจัดยาได้มากหรือเร็วขึ้น จนระดับยาในเลือดลดต่ำลง เช่น น้ำเกรปฟรุต น้ำสั้มคั้น น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี่ เป็นต้น

3. ไม่ควรลืมรับประทานยา เนื่องจากการลืมรับประทานยาเกินกว่า 2 วัน ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะเท่ากับเมื่อไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิด

4. ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ "ก่อน" ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือเกิดอันตรายจากการใช้ยาที่รักษาไม่ได้ผล

3. ปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้น ต้องขึ้นกับว่าเป็นมาก่อนหน้านั้นหรือไม่ หรือว่าเพิ่งมามีอาการ
หากเป็นมาก่อนหน้านั้น ไม่ผิดปกติไปจากเดิมที่เคยมีประจำเดือน สาเหตุน่าจะเกิดจากมีฮอร์โมนโปรเจสตินสูง ทำให้รอบประจำเดือนยาวนานเกินกว่า 35 วัน

แต่หากเพิ่งมามีอาการ อาจเกิดจากภาวะเครียด (เรื่องการงาน การเรียน ครอบครัว อดนอนหรือนอนดึก อดอาหาร ขาดสารอาหาร)

กรณีที่เป็นบ่อย ๆหรือมีอาการมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรอืเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจขาดข้อมูลที่จำเป็น หรืออาจช้าเกินไปไม่ทันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายต่อสุขภาพจนถึงแก่ชีวิตได้


เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล


แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

  • การคุมกำเนิด (Contraception)
  • แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
  • สูตินรีแพทย์
  • ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
  • แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
  • สูตินรีแพทย์
  • (ตัวอย่าง) ยาที่ลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)
  • ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม
Weyo*****u

16 สิงหาคม 2561 11:22:40 #3

ถ้าไม่เคยกินยาคุมมาก่อน กินยาคุมครั้งแรกเราว่าของมินิดอซเหมาะนะคะ เพราะว่าค่าฮอร์โมนน้อย ผลข้างเคียงเลยไม่ค่อยมี แล้วช่วงนี้ฮอร์โมนอาจจะกำลังปรับตัวด้วยค่ะ ประจำเดือนเลยมาเดือนเว้นเดือนมั้ง พอคงที่แล้วก็จะปกติเอง