กระดานสุขภาพ

มะเร้งทวารหนัก
Thud*****4

25 มิถุนายน 2561 13:52:41 #1

ผมเจ็บรูทวารครับ แต่ไม่ถึงกับตรงรูครับ เบี่บงมาทางขวา จับคล่ำๆดูเหมือนมีตุ่มคล้ายๆตุ่มสิวครับแต่ไม่แน่ใจครับ ผมเป็นคนถ่ายทุกวันครับอย่างน้อยวันละครั้งเป็นอย่างน้อย จึงไม่คิดว่าจะเป็นริดสีดวง ผมอยากทราบว่าผมจะเป็นมะเร็งรึป่าวครับ ผมเคยร่วมเพศทางทวารหนักแต่ผมไม่ได้เป็นฝ้ายรับครับเป็นฝ่ายรุกจึงอยากทราบว่าจะเหี่ยวกับมะเร้งทวารหนัดไหมครับ
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.52 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

26 มิถุนายน 2561 04:57:44 #2

  • ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงทางเพศคือไม่ใช่เกย์หรือชายรักร่มเพศ ไม่มีการร่วมเพศโดยสอดใส่ทางทวารหนัก ก็อาจจะเป็นติ่งเนื้อที่เป็นแผลเป็นจากการฉีกขาดจากอุจจาระที่แข็งเพราะท้องผูกเป็นประจำ หรืออาจจะเป็นริดสีดวงทวารหนัก สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ
  • ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้ารักษาแล้วก็จะไม่เห็นจากภายนอก หรือตุ่มที่
  • เป็นอาจจะเป็นการอักเสบของต่อมใต้ผิวหนัง คล้ายกับการเป็นสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ ถ้าไม่หายก็อาจจะต้องผ่าฝีเอาหนองออก ถ้าเป็นบ่อยๆก็อาจจะเป็นฝีคุณสูตซึ่งจะเป็นท่อทะลุจากผิวหนังเข้าไปในลำไส้ใหญ่ ทำให้อาจจะมีอุจจาระออกมาเปือ้นที่ผิวหนังได้ รักษาโดยการผ่าตดเช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณเป็นเกย์ มีการสอดใส่ร่วมเพศทางทวารหนัก ก็อาจจะเป็นหูดหงอนไก่ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้น เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
  • ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ ซึ่งจะฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เจ็บเวลาจี้ โดยสรุป ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมทางเพศและ
  • ลักษณะของติ่งเนื้อที่เป็น แนะนำหาหมอครับ ส่วนเรื่องมะเร็งทวารหนักนั้น พบได้ไม่บ่อย มักพบในคนสูงอายุ ในประเทศไทย ช่วง
  • พ.ศ. 2544-2546 พบมะเร็งทวารหนักในผู้หญิง 0.1 รายต่อประชา กรหญิง 100,000 คนต่อปี และในผู้ชาย 0.2 รายต่อประชากรชาย 100,000 คนต่อปี ปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคมะเร็งทวารหนัก แต่พบปัจจัยเสี่ยง ได้แก่
  • มีประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหูด โรคเริม โดยเฉพาะการติดเชื้อไว รัสเอชพีวีดังกล่าวแล้วในตอนต้น และไวรัสเอชไอวี (HIV) มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก มีคู่นอนหลายคน โดยเฉพาะตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เคยเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งช่องคลอด หรือโรคมะเร็งอวัยวะเพศของผู้หญิง การใช้ยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคในผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ
  • การสูบบุหรี่ อาจจากมีโรคอักเสบเรื้อรังของทวารหนัก เช่น โรคฝีคัณฑสูตร (แผลอักเสบติดเชื้อเรื้อรังระหว่างทวารหนักและผิวหนังรอบๆปากทวารหนัก)
Thud*****4

26 มิถุนายน 2561 10:32:31 #3

คุณหมอครับผมเคยมีเพศสัมพันธ์กับชายอยู่ครั้งหนึ่งครับ แต่ผมเป็นฝ่ายสอดใส่อวัยวะของผมไปที่ทวารหนักของเขาครับ(ฝ่ายรุก)แต่ใส่ถุงยางอนามัยนะครับ แบบนี้มีโอกาสที่ผมจะมีเชื้อhpvที่ทวารหนักไหมครับ เพราะทวารหนักผมไม่เคยถูกสอดใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ เคยก็แต่สอดใส่ทวารหนักของเขาโดยใช้อวัยเพศผมสอดใส่เท่านั้นครับ กรณีแบบนี้เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งทวารหนักไหมครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

27 มิถุนายน 2561 06:56:46 #4

ถ้าไม่เคยเป็นฝ่ายรับคือไม่เคยถูกสอดใส่ร่วมเพศทางทวารหนัก ก็ไม่เสี่ยงต่อการเป็นหูดหงอนไก่ที่บริเวณทวารหนักและไม่มีความเวี่ยงเพิ่มในการที่จะเป็นมะเร็งบริเวณรอบๆทวารหนัก ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอครับ