กระดานสุขภาพ

ตกชาวและคันน้องสาวและเป็นผื่นคัน แปลกๆ ทำไงดีคะ
Anonymous

27 กุมภาพันธ์ 2561 05:58:54 #1

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 25 กพ 61 มีอาการตกขาวและคันบริเวนช่องคลอดคะ จึงได้สอดยาเหน็บ แต่ตอนนี้ หายคันที่ช่องคลอดแล้วคะ มาคันที่ปากช่องคลอด (เรียกถูกไหมคะ ไม่ได้คันข้างในแล้ว จึงได้เอาถือถูๆ กกน บริเวนที่คันๆ จนหลับไปเมิ่อไหร่ไม่แน่ใจ เพราะเหนื่อยจาการทำงาน)ดิฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร เหมือนทุกเดือนที่คันแบบนี้ก่อน ปจด จะมา แต่วันนี้ เริ่มผิดปกติ มันคันไม่หายคะ ข้างนอกช่องคลอด ดิฉันจึงได้เอากระจกใบโตหน่อยมาส่องดู ก็พบว่า มันแดงและมีตุ่มๆๆขึ้น และเหมือนจะมีติ่งๆ บริเวณปากมดลูก ไม่รู้ว่าเรียกถูกหรือป่าว เพราะใช่นิ้วแหวกดูมันก็เจอเลยคะ ไม่ทราบว่า ตุ่มแดงๆ และติ่งๆที่นูนออกมาแล้วคัน มันอันตรายไหมคะ กลัวจังเลยคะ ว่าจะไปหาหมอ แต่ไม่มีเวลาคะว่ารอดูสัก สองสามวันจะไป เบื้อต้นอยากถามว่า อันตรายไหมคะ หรือเป็นโรคอะไรป่าวคะหมอ
อายุ: 35 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 159 กก. ส่วนสูง: 55ซม. ดัชนีมวลกาย : 525.62 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

3 มีนาคม 2561 19:37:58 #2

ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ

ส่วนเรื่องตุ่มหรือติ่งนั้น หมออาจตอบได้คร่าวๆจากการคาดเดานะครับ ซึ่งหากไม่เคยมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเลย หรือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่การอักเสบบริเวณนี้ มักเกิดจากการอักเสบของต่อมขนหรือต่อมไขมันครับ อาจคล้ายกับหัวสิว อาจหากเองได้ถ้าไม่มีการติดเชื้อซ้ำไปครับ และก็ควรดูแลรักษาความสะอาดตามปกติครับ ไม่ให้อับชื้น เป็นต้นครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้สังเกตุอาการไปก่อนได้ครับ หากอาการไม่ดีขึ้น มีอาการผิดปกติมากขึ้น ก็ควรมาพบแพทย์นะครับ เพราะ โรคในลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้การตรวจรอยโรคครับ