กระดานสุขภาพ

มีตกขาวและมีน้ำใสๆไหลออกมาปนเลือดสีชมพูคือโรคหรืออาการไรคะ
Anonymous

24 กุมภาพันธ์ 2561 18:22:57 #1

คือเคยไปตรวจภาพในอยู่รอบนึงคะ ตอนนั้นประจำเดือนมาแบบกระปิดกระปอย เปนมาเกือบ2เดือนเกือบ3 เขาให้ยามากินเขาบอกเปนช่วงไข่ตก และก็หายไป และมาคราวนี้คือ ประจำเดือนหนูมาปกติทุกเดือนคือสิ้นเดือนค่ะ แต่ว่าเดือน มกราคม2561 หนุมาวันที่ 31 หมดวันที่ 3-4 หนุจำไม่ได้คะแต่พอประจำเดือนหมด ตกขาวหนูมาบ้างไม่มาบ้าง บางวันก้มีสีเหลือง หนูก้คิดว่าหนูอั้นปัสสาวะ หรือบางวันก็เปนสีเขียวอ่อนๆ และหนูก้ใช้พวกแลตตาสิตบ้างทำความสะอาดนะคะ แล้วก็พอมาช่วงวันที่ 20 ตื่นมาหนูก้เข้าห้องน้ำปกติหนุก้จับดูคือมีตกขาว พอยืนสักพักก้มีน้ำไหลออกมาที่กางเกงคะ เปนน้ำใสๆและมีเลือดสีชมพูมีกลิ่นแรงมาก และหนูก้คิดว่าประจำเดือนจะมา แต่พอใสผ้าอนามัยมันก้มาแค่นิดเดียวคะ ตอนกลางคืนความรุ้สึกคือมาน้อยจนหนูไม่ต้องใส่ผ้าอนามัยเลยแต่ตอนกลางวันมาเยอะคะ จนมาถึงวันนี้วันที่25 แล้วก้ยังไม่หมดคะแต่กลิ่นก้เหมือนกลิ่นเลือดปนคาวๆ แบบนี้คืออาการไรอะคะหนูต้องไปหาหมอมั้ยหรือมีทางแก้แบบไหนให้หนุบ้างคะ
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.16 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

3 มีนาคม 2561 19:34:39 #2

ในเรื่องของอาการตกขาวที่มากขึ้นนั้น ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ ส่วนหากมีอาการตกขาวร่วมกับมีเลือดสดติดออกมาทุกๆครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นั้น อาจเกิดจากการที่มีการอักเสบหรือรอยโรคที่ปากมดลูกนะครับ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายในทันทีเลยนะครับ

แต่หากเลือดที่ออกนั้น เป็นลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ