กระดานสุขภาพ

ตกขาว เท่ากับท้องจริงหรือไม่
Anonymous

18 กุมภาพันธ์ 2561 05:57:22 #1

คือผมมีอะไรกับเเฟนมาเรื่อยๆเลยครับเเต่พักหลังๆไม่มีเเล้ว ทุกครั้งใส่ถุงยางทุกครั้งนะครับ ตรวจดูอย่างดีตลอด เเต่ว่าเดือนนี้ ปจด ยังไม่มาเลยครับ เดือนที่เเล้วกินยาคุม ฉุกเฉินไปครับ เเต่ว่าเดือนนี้ยังไม่มีอาการเเสดงถึงว่าท้องนะครับ เเต่มีตกขาวออกมาก ผมไปอ่านมาเค้าบอกว่าตกขาวมากเเสดงว่าท้องจริงหรอครับ เเฟน นน54 สูง150
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Vipa*****9

18 กุมภาพันธ์ 2561 22:03:28 #2

ไม่สามารถใช้ตกขาวเป็นตัวบ่งชี้ได้ 

 

การตรวจด้วยตัวเอง ให้ได้ผลแม่นยำที่สุด

ซื้อชุดตรวจครรภ์ ซื้ออย่างดีไปเลย  ตรวจหา HCG ในปัสสาวะ มาเตรียมไว้ก่อน

 

 

ตอนเย็นรีบนอนหลับไวๆ นอนให้มากๆ ตื่นนอนเช้าๆ แล้วตรวจทันที

(ใช้ปัสสาวะครั้งแรกของเช้าวันนั้น) จะมี HCG เข้มข้นที่สุดค่ะ 

 

เคสของคุณ มีปัจจัย + องค์ประกอบ ที่ตรงตามเคสหลักๆที่กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่

 

ขออนุญาต สอบถามเพิ่มเติม หากกรุณานะคะ  

 

ช่วยทักมาที่  vipaadaa99@gmail.com 

 

ขอบพระคุณมากๆค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

19 กุมภาพันธ์ 2561 07:37:16 #3

อาการตกขาวผิดปกติไม่ได้สัมพันธ์กับเรื่องของการตั้งครรภ์เลยค่ะ การที่ตกขาวมีปริมาณมากน่าจะเกิดจากการติดเชื้อภายในช่องคลอดหรือบริเวณปากมดลูก ซึ่งถ้ามีอาการตกขาวมีกลิ่นมีอาการคัน มีสีที่ผิดปกติร่วมด้วย ควรให้แฟนมาพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจภายในและทำการนำสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอดไปตรวจเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อใดหรือไม่ จะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป นอกจากนี้ ถ้าแฟนคุณยังไม่เคยทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูก ก็ควรทำการตรวจเช็คไปในคราวเดียวกัน จะได้มั่นใจว่าไม่มีเซลล์ผิดปกติที่บริเวณปากมดลูกด้วย อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปสตรีจะสามารถมีสิ่งคัดหลั่งออกมาทางช่องคลอดได้อยู่แล้วโดยสิ่งคัดหลั่งที่พบนั้นจะมีลักษณะที่เปลี่ยนไปตามรอบเดือน เช่น ช่วงที่ไข่ตกหรืออยู่กลางรอบเดือนจะเป็นช่วงที่มีสิ่งคัดหลั่งลักษณะคล้ายมูกใสยืดยาวออกได้มาก ไหลออกมาทางช่องคลอด และในช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือนจะมีลักษณะเป็นมูกข้นคล้ายแป้งเปียกออกมาทางช่องคลอดได้เช่นกัน ซึ่งไม่ได้สัมพันธ์กับเรื่องของการตั้งครรภ์เลย การสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ควรทำการตรวจสอบให้ดีว่าถุงยางไม่มีรอยรั่ว มีการสวมใส่และถอดออกอย่างถูกวิธีทุกครั้งเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ และยังป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยค่ะ ในกรณีที่แฟนคุณไม่แน่ใจว่าสิ่งคัดหลั่งดังกล่าวเกิดจากการติดเชื้อหรือไม่ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ โดยแพทย์จะนำสิ่งคัดหลั่งนั้นไปดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ถ้ามีการติดเชื้อราหรือแบคทีเรียจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไปเช่นกันค่ะ
________________________________________