กระดานสุขภาพ

สอบถามอาการหนังอัณฑะแห้ง กดเจ็บ ครับ
Dash*****R

13 ธันวาคม 2560 06:52:41 #1

http://haamor.com/media/images/webboardpics/DashSpinneR-40487.jpg

บริเวณทั้งสองจุดมีความแห้งสูงกว่าบริเวณโดยรอบ ไม่มีการตกสะเก็ด หากแตะโดนหรือทำให้ตึงจะรู้สึกเจ็บครับ
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.23 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

14 ธันวาคม 2560 09:56:27 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็เป็นผื่นสีออกคล้ำๆที่อวัยวะเพศและถุงอัณฑะ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุ 1. เชื้อรา มักจะพบในคนที่มีเหงื่อออกมาก เช่นนักกีฬา หรือคนที่ทำงานกลงแจ้ง ใส่ชุดที่อับชื้น รักษาโดยการใช้ยาทาหรือยากินเชื้อรา เช่น clotrimazoleหรือ Iitraconazole ใช้เวลาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ก็จะหาย เมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่นอาบน้ำเช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ถ้าชุดชั้นในอับชื้นหรือมีเหงื่ออก ต้องรับอาบน้ำและเปลี่ยนชุดโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นอีก 2. แพ้หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส ทำให้คันและเกาจนเป็นผื่น รักษาโดยกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น betamethasone หรือ อาจจะเป็นทั้งแพ้และเชื้อราร่วมกัน แนะนำหาหมอ อาจจะต้องมีการขูดผิวหนังเพื่อดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ หรือ 3. แพ้ยากินบางชนิด ซึ่งถ้ามีประวัติกินยา เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ ยาชุดจากร้านขายยา ก็อาจจะเป็นจาการแพ้ยา ต้องงดกินยาหรืองดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้ ลองนึกดูว่าก่อนเป็นได้กินยาอะไรหรือไม่ถ้ามีก็เป็นไปได้ว่าน่าจะเกิดจากการแพ้ยา ซึ่งลักษณะของแผลแพ้ยาจะคล้ายกับแผลที่โดนน้ำร้อนลวก ให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือล้างแผลเช้าเย็น ใช้ยาทาแก้แพ้ เช่น triamcinolone ทาบางๆ เช้า เย็น กินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้า เย็น ก็จะดีขึ้นใน 1 อาทิตย์ โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมทางเพศและลักษณะของแผลถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่าย แต่ถ้าก่อนเป็นมีประวัติเสี่ยง เช่น เที่ยวผู้หญิง มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจเป็นโรคติดต่อ เช่น เริม อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ