กระดานสุขภาพ

เเบบนี้ใช่หูดหงอนไก่รึป่าวค่ะ
Blue*****

10 พฤศจิกายน 2560 15:27:04 #1

เป็นติ่งดำๆมาตั้งแต่ม.4 แล้วค่า ก่อนที่จะเป็นเคยมีแผลโดนเล็บข่วนที่จิมิมันจะทำให้ติดโรคได้มั้ยค่ะ แต่ว่าตอนนั้นยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนนะค่ะ เพิ่งมามีตอนจบม.ปลาย อาการก้ไม่รู้สึกเจ็บ หรือว่าคันอะไร แต่ว่ามีตกขาว ไม่มีกลิ่นค่ะ
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Oshi*****u

10 พฤศจิกายน 2560 20:17:49 #2

ช่วยแนบรูปมาให้ดูหน่อยได้ไหม เพราะข้อมูลน้อยมากที่จะบอกว่าเป็นหูดหงอนไก่

Oshi*****u

10 พฤศจิกายน 2560 20:23:23 #3

แล้วตอนมีเพศสัมพันธ์ได้ใช้ถุงยางป้องกันหรือไม่

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

13 พฤศจิกายน 2560 15:58:01 #4

ปกติแล้ว หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเลย ก็ไม่มีโอกาสที่จะเป็นหูดหงอนไก่ ซึ่งหูดหงอนไก่นั้นเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV และมาจากการติดเชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์นะครับ สบายใจได้ แต่หากยังกังวลใจ อาจมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจดูรอยโรคโดยไม่จำเป็นต้องตรวจภายในก็ได้ครับ

ส่วนในเรื่องตกขาวนั้น ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครั