กระดานสุขภาพ

คันอวัยวะเพศหญิง
Pata*****2

24 ตุลาคม 2560 09:38:14 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ อยากปรึกษาหน่อยค่ะ

คือหนูรู้คันที่อวัยวะเพศค่ะ วันแรกที่เป็น(สองวันก่อน)คันตรงแถวๆปากช่องคลอดค่ะ(ไม่แน่ใจ)คันแค่ด้านนอก

คันมากค่ะ แต่พอทานบีทาเก้นเข้าไปก็หายเลยค่ะจนวันนี้ก็มีคันนิดๆ(แทบไม่รู้ตัว)ค่ะ แต่ส่วนมากไม่คันแล้ว

ตกขาวปกติค่ะไม่ได้เยอะผิดปกติ ไม่ขาวแบบนมบูด ไม่เหลือง ปกติเหมือนตอนสมัยช่วงตกขาวประจำเดือนมาครั้งแรกเ

ลยค่ะ ไม่มีผื่นด้วย ไม่เคยมีเพศสมัพันธ์ค่ะ ตอนนี้ก็ทานบีทาเก้นอยู่เรื่อยๆวันละขวด แบบนี้ต้องไปซื้อพวกคาเนสเท็นหรือ

ต้องไปตรวจภายในโดยด่วนมั้ยคะ คืออายน่ะค่ะตอนนี้อยู่ในช่วงประจำเดือนยังไม่มาค่ะ มาอีกช่วงต้นเดือนหน้าค่ะ 

คืออ่านเจอว่าเชื้อรานี่จะมีอาการคันแบบทรมานตกขาวเยอะมีกลิ่นไรพวนี้อ่ะค่ะ แต่หนูไม่ได้มีอาการเป็นแบบนั้นเลยสัก

อย่างอ่ะค่ะ ชุดชั้นในไม่ได้ใส่ซ้ำค่ะ กางเกงไม่รัดด้วยค่ะ ที่เป็นแบบนี้เพราะอยู่ที่ความสะอาดเฉยๆรึเปล่าคะ

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.42 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 ตุลาคม 2560 08:17:01 #2

ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ