กระดานสุขภาพ

กินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนไม่มา
Anonymous

18 ตุลาคม 2560 20:17:22 #1

สวัสดีค่ะ เพิ่งมีพสพ.ครั้งแรกค่ะ อยากขอคำแนะนำ ฝ่ายช่ายหลั่งอสุจิสองครั้งค่ะ วันที่ 9 ตุลาคม ครั้งแรกคือ ก่อนจะนำอวัยวะเพศมาสวมใส่ นอกเสื้อผ้าค่ะ ครั้งที่สอง ได้สวมใส่อวัยวะเพศแล้ว แต่ไม่ได้ใส่ถุงยาง เอาออกมาก่อนสักพักก่อนหลั่งนอกอีกครั้งค่ะ หลังจากนั้นรีบกินยาฉุกเฉินเม็ดแรกก่อน24ชั่วโมง อีก 12ชั่งโมงรีบกินตามอีก1เม็ด วันที่ 14 ตุลาคม ฝ่ายช่ายหลั่งในแต่ถุงยางเกิดหลุด เกือบครึ่งอวัยวะเพศ เห็นเปื้อนๆน้ำอสุจิอยู่รอบๆอวัยวะเพศชายจึงรีบออกไปล้างทันที จากนั้นรีบกินยาคุมฉุกเฉินทันที อีก 1 เม็ด ประจำเดือนล่าสุดมาวันที่ 18 กันยา เป็นคนประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงวันค่ะ จนวันนี้วันที่ 19 ตุลาถึงรอบประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ ได้กินยาคล้ายๆบำรุงเลือด ทำให้มี สิวขึ้น อารมณ์แปรปรวน มีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยคะ ? (ตอนนี้อยู่ต่างประเทศค่ะ หาหมอไม่สะดวก ซื้อยาไม่สะดวกแต่จะกลับไทยวันที่ 23 ตุลา นี้แต่กลับมาเรียนต่ออีก วันที่ 28 ตุลา) - ต้องเตรียมตัว ตรวจครรภ์เมื่อไหร่ดีค่ะ - หากกลับไทยต้องควรไปอัลตาซาวกับตรวจเลือด เพื่อเช็คการตั้งครรภ์ หรือท้องนอกมดลูก ได้ 100% มั้ยคะ - ทั้งนี้การกินยาคุมฉุกเฉินครั้งแรก มีโอกาสท้องนอกมดลูกมั้ยคะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยกินยาคุมแบบอื่นมาก่อนเลยค่ะ ไม่เคยคุมกำเนิดวิธีอื่นเลย - มีอาการเหมือนจะเป็นประจำเดือน เมื่อยตัว ปวดหลังคล้ายประจำเดือนมา ปวดหน่วงที่ท้องน้อยคัดหน้าอก นิดหน่อย มวนๆท้องอืด และท้องเสีย ปัสสาวะปกติ แต่ประจำเดือนก็ไม่มา ตกขาวใสๆ ขุ่นๆ นิดหน่อย - ส่วนตัวแล้วตอนนี้ยังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์เพิ่งคบกับแฟน แต่หากตั้งครรภ์แล้วจริงๆจะได้รีบเตรียมตัวค่ะ - หากตั้งครรภ์ช่วงวันที่ 23-28 ตุลาคม สามารถตรวจพบ 100% มั้ยคะ มีโอกาสที่ตรวจไม่เจอแต่พบว่าตั้งครรภ์ที่หลังได้หรือไม่คะ ขอบคุณมากค่ะ
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.92 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

19 ตุลาคม 2560 17:06:29 #2

ในกรณีที่วิตกกังวลว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์เนื่องจากฝ่ายชายมีการหลั่งมาก่อนที่จะมีการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอด ดังนั้น คุณจึงมีความเสี่ยงต่อการที่จะตั้งครรภ์ได้ การทานยาคุมฉุกเฉินภายในเวลาก็จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้เช่นกันโดยจะต้องทานไม่เกิน 24 ชั่วโมง ทานครั้งละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมงการทานยาคุมฉุกเฉินอาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและรอบเดือนถัดไปมีความคลาดเคลื่อนได้ การตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์จะให้ผลแน่นอนเชื่อถือได้ ควรจะต้องทำหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วนาน 3 สัปดาห์หรือถ้าจะตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน beta hcg ก็จะต้องทำหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้ว ประมาณ 12 ถึง 14 วันผลจึงจะเชื่อถือได้ค่ะ คุณลองไปคำนวณวัน แล้วดูความเสี่ยงดูเองนะคะ