กระดานสุขภาพ

มีโอกาสท้องมากไหมครับ
Anonymous

5 พฤษภาคม 2560 14:31:59 #1

คือผมได้ช่วยแฟนตัวเองครับ เมนส์แฟนมาล่าสุดวันที่ 26 เมษายน 2016  วันที่ 1 และ 5พฤษภาคมครับ   แต่ย้ำว่า ไม่ได้สอดใส่นะครับ แต่มีการช่วยตัวเอง โดยแฟนช่วยให้ผมก่อน แล้วผมเสร็จคามือแฟน แล้วแฟนก็เอามือไปใส่กางเกงของเขา และวันที่ 5 ผมได้ช่วยแฟนอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านั้นผมได้ช่วยตัวเองมาก่อนครับ แต่ผ่านไปสัก 2-3 นาที แฟนผมก็มาจูบปากผม แต่มีผ้าห่มคั่นอยู่ระหว่างตัวนะคับ  ผมขอถามเป็นข้อนะครับ

1.ผมกลัวแฟนเอามือไปใส่กางเกงแล้ว อสุจิอาจจะเข้าไปในมดลูกได้ไหมครับ และมีโอกาสท้องมากแค่ไหนครับ

2.วันที่ 5 อสุจิสามารถซึมผ่านผ้าห่มได้ไหมครับ และมีโอกาสท้องไหมครับ

3.ในวันที่กล่าวมา ได้อยู่ในช่วงไข่ตกไหมครับ 

4.อสุจิสามารถอยู่นอกร่างกายได้นานไหมครับ ประมาณเท่าไรครับ

  <3      รบกวนทีครับ ผมกังวลมากๆเลยครับ ช่วยตอบทีนะครับ ^^ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

อายุ: 15 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.61 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

9 พฤษภาคม 2560 12:36:25 #2

คุณหมอรบกวนตอบกลับหน่อยได้ไหมครับ กังวลมากๆเลยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ^^ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 พฤษภาคม 2560 10:08:16 #3

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

Anonymous

10 พฤษภาคม 2560 13:54:34 #4

ผมขอถามต่อเป็นข้อๆอีกทีนะครับ 

 1. ที่ผมกล่าวมาข้างต้น คือ ไม่ท้อง 100% ใช่ไหมครับ ผมจะได้หายกังวลใจคับ

 2. เมนส์ของแฟนผม จะมาประมาณวันที่เท่าไหร่หรอครับ (เดือน มีนาคม มาวันที่ 30 : เดือนเมษายน มาวันที่ 26 ครับ)

 3.และในช่วงที่ผมกล่าวมา 2 วันคือ วันที่ 1 และ 5 พฤษภาคม ได้อยู่ในช่วงไข่ตกหรือไม่ครับ

  ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ^^ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

12 มิถุนายน 2560 03:19:42 #5

อย่างที่หมอกล่าวไปนะครับ ว่า การที่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ จะไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์

ส่วนเรื่องประจำเดือนนั้น ก็ตามปกติตามระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนครับ ซึ่งสาเหตุต่างๆที่กล่าวมานั้น ไม่มีผลทำให้ประจำเดือนเลื่อนหรือมาผิดรอบนะครับ ซึ่งหากมีลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ที่มีประจำเดือนใหม่ๆนั้น จะเกิดจากการทำงานของสมอง มดลุก รังไข่และระบบฮอร์โมนยังทำงานประสานกันไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้บางรอบเดือนไม่เกิดการตกไข่ เป็นผลต่อให้รอบประจำเดือนผิดปกติได้ ซึ่งหากระบบต่างๆทำงานดีขึ้นก็จะทำให้การตกไข่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ประจำเดือนก็จะเป็นรอบดี ซึ่งจะใช้ระยะเวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 3 ปีครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ ดังนั้น หากรอบประจำเดือนผิดปกติมาก มามาก มากะปริดกะปรอยจนทำให้รบกวนชีวิตประจำวัน หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 เดือน ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อประเมินและรักษาตามสาเหตุนะครับ

ส่วนการคำนวณวันตกไข่นั้น จะใช้ได้แม่นยำในคนที่มีประจำเดือนสม่ำเสมอนะครับ ซึ่งการคำนวณจะต้องคำนวณจากระยะระหว่างรอบประจำเดือน โดยจะนับจากวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาย้อนไป 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน เช่น หากรอบเดือนประมาณ 30 วัน และวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาเป็นวันที่ 1 ของรอบประจำเดือน ดังนั้นวันที่ตกไข่ ก็จะเป็นวันที่ 16 เป็นต้น ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้าและหลังวันนี้ 2 วัน จะเป็นช่วงที่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้สูงครับ และ การที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนหรือหลัง 7 วัน นับจากวันมีประจำเดือนวันแรกนั้น หากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ตรงรอบดี ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ แต่อย่างไรก็ตาม การใช้การนับวันประจำเดือนนั้นปกติแล้วจะใช้เพื่อการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่มีบุตรยากครับ การที่จะนำมาใช้เพื่อการคุมกำเนิดนั้นไม่ควรอย่างยิ่งครับ ยิ่งในผู้ที่มีรอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ การตกไข่จะย่ิงคาดเดาไม่ได้ครับ เพราะ ประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์จะต่ำ ควรจะใช้การคุมกำเนิดอื่นๆ ที่ป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น