กระดานสุขภาพ

ต้องการหมอ
Iced*****_

12 กุมภาพันธ์ 2560 15:46:54 #1

ตอนนี้ผมแปลกใจมากเลยคับทำไม ปลายอวัยวะของผมถึงมีเหมือนตุมเล็กขึ้น ผมกลัวติดเชื่อHIV คับหมอทำยังไง

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

15 กุมภาพันธ์ 2560 04:02:44 #2

ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยง คือยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทกุครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ตุ่มที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นต่อมตามธรรมชาติ เช่น ตุ่มเล็กๆที่ขึ้นรอบๆส่วนหัวของอวัยวะเพศ เรียกว่า pearly penile papules เป็นตุ่มที่ขึ้นได้ตามธรรมชาติ จะมีขนาดต่างกัน ในบางคนอาจเล็กมากจนสังเกตุไม่เห็น แนบางคนอาจใหญ่และมีตั้งแต่ 1-3 แถว ดูเหมือนเป็นหูดหงอนไก่ ต่อมเหล่านี้ถือว่าเป็นปกติ ไม่ต้องกังวลหรือรักษาแต่อย่างไร ในกรณีที่ใหญ่มากจนมองแล้วไม่สวย มีการใช้เลเซอร์ลบให้เล็กลง แต่ก็อาจเป็นใหม่ได้ หรืออาจจะเป็น ต่อมไขมันที่เรียกว่า Fordyce spot ซึ่งเป็นตุ่มที่เกิดจากต่อมไขมัน หรือต่อม sebaceous glands ซึ่งปกติจะอยู่ร่วมในรูขน แต่ในกรณีนี้อยู่นอกรูขน แต่อยู่ที่ผิวหนังแทน โดยยังไม่รูสาเหตุ แต่ไม่เป็นอันตราย บางคนอาจจะค่อยๆจางลงเองได้ บางรายอาจอยู่ได้เป็นเดือน ปี โดยไม่มีอันตรายแต่อย่างไร ไม่ต้องกังวลนะครับ ในรายที่เป็นมาก อาจลองใช้เลเซอร์ให้จางลงได้ แต่ผลการรักษาไม่แน่นอน อาจเป็นใหม่อีกได้ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อ เช่น หูดหงอนไก่ จากเชื้อไวรัส Human papilloma virus (HPV) เป็นติ่งเนื้อออกสีชมพู มีลักษณะเป็นคอกเล็กๆคล้ายหงอนไก่หรือดอกกระหล่ำ รักษาโดยการจี้ยา หรือจี้ไฟฟ้า เลเซอร์ หรืออาจจะเป็นหูดข้าวสุก เกิดจากเชื้อไวรัส Molluscum contagiosum เป็นตุ่มมีรอยบุ๋มตรงกลาง บีบดูจะมีสารสีขาวขุ่นคล้ายข้าวสุก รักษาโดยการบีบเอาสารตรงกลางตุ่มออก แล้วทายาฆ่าเชื้อ ส่วนเรื่องอาการของการติดเชื้อเอดส์ หรือไวรัสเอชไอวี ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น

โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์และลักษณะของตุ่มที่เป็น แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมมาด้วยครับ