กระดานสุขภาพ

ควรทำยังไงดีครับ
Anonymous

18 มกราคม 2560 04:41:31 #1

หลังจากมีอะไรกับแฟน 2-3วัน ผมมีอาการแสบนิดๆเวลาปัสสาวะครับ เวลาอยู่เฉยก็จะรู้สึกคันในท่อปัสสาวะ แต่ไม่ได้คันตลอดนะครับ และจะรู้สึกเหมือนมีน้ำไหลออกจากปลายท่อ แต่ก็ไม่มีทั้งหนองทั้งมูกใสออกมา ผมสงสัยว่าจะเป็นหนองในเทียมรึเปล่าครับ แล้วถ้าไปหาหมอตามคลินิกไปหาหมอรักษาโรคทั่วไปได้ไหมครับ เพราะแถวที่ผมอยู่ ไม่มีคลินิกเฉพาะทาง ครับผม
อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 72 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

19 มกราคม 2560 03:38:00 #2

อาการที่เล่ามา อาจจะมีการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ แบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้งสองโรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยงคือถ้าแน่ใจว่าทั้งตัวคุณและแฟนไม่เคยมีการร่วมเพศกับคนอื่นหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครัง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น อาจจะต้องมีการตรวจเพิ่มเติม โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยง แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะหรือหมอโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ