กระดานสุขภาพ

สงสัย โรคเกี่ยวกับลำไส้
Ther*****a

25 กันยายน 2559 02:38:36 #1

จากการที่ได้สอบถามเกี่ยวกับโรคหนองในเทียมที่ทวาร ผมได้มีการทานยา erithomycin จนครบ 2 อาทิตย์ บวกกับ doxy อีก 1 อาทิตย์ อาการเริ่มดีขึ้น แต่พอหยุดยา doxy มาสัก 3-4 วัน เริ่มมีอาการ คือ มีไข้ต่ำ รู้สึกคันในทวาร และมีอาการปวดตา ตาพร่า ผมจึงรบกวนสอบถามกับคุณหมอว่า จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้เป็นโรคหนองในเทียมใช่ไหมครับ เพราะทางคุณหมอที่คลินิคนิรนามได้เคยพูดว่า หากกินยาแล้วยังไม่หาย อาจเป็นหนองที่ลำไส้ แต่ตอนนี้ ไม่มีหนองไหลที่ทวาร (เพิ่งหยุดยา erithomycin เมื่อวานเสาร์ที่ผ่านมา)
อายุ: 38 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 59 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.94 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 กันยายน 2559 09:41:01 #2

อาการคันที่ทวารหนัก หรือมีมูกหรือหนอง ปวดหน่วงๆ ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือเป็นชายรักร่วมเพศที่มีการสอดใส่ทางทวารหนัก โรคที่พบบ่อยคือ หนองใน หนองในเทียม หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ หนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในกรณีของคุณถ้ายังไม่ได้ฉีดยาหนองใน แนะนำให้ฉีดด้วย ในกรณีที่ถ้าทั้งฉีดและกินแล้วยังมีอาการอยู่และแน่ใจว่าไม่ได้มีการติดเชื้อใหม่ คือ ไม่ได้มีการสอดใส่ทางทวารหนัก ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีสาเหตุอื่นๆ เช่น เริม ซึ่งอาจจะมีแผลอยู่ลึกในทวารหนักโดยไม่เห็นแผลจากภายนอก นอกจากนี้สาเหตุอื่นๆ เช่น โปรตัวซัวที่เรียกว่า Gardia lamblia ซึ่งต้องมีการตรวจอุจจาระอาจจะพบตัวเชื้อ หรืออาจจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆ เช่น เชื้อบิด เชื้อชิคเกลล่า เป็นต้น แนะนำหาหมออายุรกรรมระบบทางเดินอาหารซึ่งจะต้องมกีารส่องกล้องในทวารหนักและเก็บตัวอย่างเพื่อหาสาเหตุครับ