กระดานสุขภาพ
ประจำเดือนมาผิดปกติ และการทานยาคุม | |
---|---|
25 สิงหาคม 2559 07:21:33 #1 สอบถามค่ะ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่ พ.ค.-ก.ค ได้มีอาการประจำเดือนมาผิดปกติ คือ 17-18 วัน มาครั้งค่ะและแต่ละครั้งมาปริมาณปกติค่ะไม่เยอะเกินและไม่น้อยเกินค่ะ จนมีประจำเดือนอีกครั้งเดือนเมื่อต้นเดือน วันที่ 2 ส.ค. (วันแรก)และได้เริ่มทานยาคุม Yaz (28เม็ด) ตั้งแต่วันแรกที่มีเลือดออก จนถึงปัจจุบันทานมาจนถึงเม็ดที่ 17 ก็มีเลือดออกอีกคล้ายจะเป็นประจำเดือนอีก ก่อนมีเลือดออกทุกครั้งมีอาการปวดหลังและปวดหัวทุกครั้งค่ะ (ระหว่างทานยาคุมได้มีเพศสัมพันธุ์ในวันที่ 13-14 ส.ค. มีการป้องกันถุงยางร่วมด้วยค่ะ) อยากทราบว่า 1.การมีเลือดออกทุก 17-18 วันแบบนี้เกิดจากอะไรค่ะ แล้วอันตรายไหมค่ะ 2.มีโอกาสเสี่ยงการตังครรถ์ไหมค่ะ 3.ตอนนี้ยาคุมที่ทานเหลือตัวยาฮอร์โมนเหลืออีก 6 เม็ด(เม็ดแป้งขาวอีก 4 เม็ด)ค่ะต้องทานต่ออย่างไรดี 4.ถ้าต้องการคุมกำเนิดด้วยยาคุม ต้องทานแผงต่อไปความเริ่มตอนไหนคะ
ขอบคุณค่ะ |
|
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
28 สิงหาคม 2559 04:53:31 #2 รอบเดือนที่ปกติจะมาทุก 21-35 วันต่อครั้ง มาครั้งละไม่เกิน 7 วันและปริมาณไม่มากเกินไป จากประวัติที่คุณบอกมาคุณมีรอบเดือนค่อนข้างสั้น คือมาเร็วกว่าปกติ แต่ปริมาณไม่มาก อาจจะเป็นเพราะไข่ตกเร็วมากกว่าปกติ ยาคุม yaz เป้นยาคุมฮอร์โมนต่ำ มีเอสโตรเจนเพียง 20 ไมโครกรัม เมื่อทานยาจึงอาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้ ตอนนี้เหลือยา 6 เม็ด จะต้องทานให้หมดแผงก่อน เมื่อริ่มแผงใหม่ควรจะต้องเปลี่ยนเป็นยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นเป็น 30-35 ไมโครกรัม จะช่วยลดอาการเลือดออกผิดปกติระหว่างทานยาคุมได้ สามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาหรือไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาในการทานยาต่อไปได้ค่ะ |
DPKK*****K