กระดานสุขภาพ

อยู่ๆ มีตุ่มแดงขึ้นที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศครับ
Wutt*****n

17 มกราคม 2559 13:25:33 #1

เนื่องจากผมได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยไม่ได้สวมถุงยางเมื่อคืนวันจันทร์ ในระหว่างสอดใส่รู้สึกเจ็บมาก เมื่อเสร็จแล้วก็ทำการล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำประปาธรรมดา ไม่ได้ถูสบู่แต่อย่างได้เพราะรู้สึกเจ็บ แล้วก็รู้สึกระคายเคืองอยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้นในช่วงเช้าของวันพุธรู้สึกคันที่หนังหุ้มปลายมากและแสบมาก จึงลองตรวจสอบดูพบว่าเป็นตุ่มแดงๆ ที่หนังหุ้มปลายจำนวน 4 ที่จึงอยากทราบว่าผมเป็นอะไรครับ อาการคือมีน้ำเหลืองอยู่รอบบริเวณและมีกลิ่นแรงพอสมควร เมื่อสัมผัสที่แผลหรือโดนน้ำมีอาการแสบมากครับ และรู้สึกคันระคายเคืองบ่อยๆ

ภาพประกอบครับ 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Wuttikorn-26602-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Wuttikorn-26602-2.jpg

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.45 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Wutt*****n

17 มกราคม 2559 13:28:49 #2

เพิ่มเติมครับ : ผมได้ทำการสอบถามแฟนแล้วว่าเคยมีเป็นเริมมาก่อนหรือไม่ แฟนตอบว่าไม่เคยเป็นเลยครับ และอีกอย่างก็เคยมีเพศสัมพันธ์กันมาก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนแล้ว ทั้งการสวมถุงยาง และไม่สวมครับ แต่พึ่งมาพบอาการครั้งนี้เป็นครั้งแรกครับ

Wutt*****n

17 มกราคม 2559 13:49:52 #3

เพิ่มเติม 2 ครับ : จะมีส่วนที่ผมแพ้สบู่ตามโรงแรมแล้วเกิดอาการมั้ยครับ เนื่องจากในเช้าวันอังคารผมนำมาฟอกตัวและทำความสะอาดอวัยวะเพศ แล้ววันนั้นทั้งวันมีอาการคันอยู่หลายๆ แห่งครับ เพราะโดยปกติผมจะเป็นคนแพ้น้ำประปา และไวต่อสารเคมีมากครับ ยังไงรบกวนคุณหมอตรวจสอบจากแผลในภาพให้ทีนะครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

21 มกราคม 2559 12:48:44 #4

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลเล็กหลายแผลที่อวัยวะเพศ ลักษณะคล้ายเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล ส่วนที่ถามว่าจะแพ้น้ำหรือสบู่ ส่วนใหญ่จะไม่เป็นแผล จะเป็นผื่นแดงๆ คันๆ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอครับ

Anonymous

21 มกราคม 2559 23:49:39 #5

คงต้องไปตรวจแล้วล่ะครับ ตอนนี้แผลบรรเทาลงมากไม่มีอาการแสบหรือคันเลย แต่แฟนก็ยังยืนยันว่าไม่เคยเป็นหรือมีอาการมาก่อนเลยครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 กุมภาพันธ์ 2559 13:51:42 #6

แนะนำหาหมอครับ ในกรณีที่เป็รเริม ก็อาจจะเป็นซ้ำหรือเป็นๆหายๆ ถ้าเริ่มมีตุ่มน้ำใสๆ ถ่ายรูปเพิ่มเติมมาให้ดูก็ได้ครับ