กระดานสุขภาพ

สวัสดีครับคุณหมอคือตอนนี้เครียดมากเลยครับอยู่ๆบริเวณอวัยวะเพศก็เป็นรอยแดงแล้วต่อมาก็เหมือนเป็นแผลมีน้ำหนองใสๆอะครับ
Kit *****n

4 มกราคม 2559 09:45:06 #1

ผมเป็นพวกชายรักชายนะครับแล้วมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จัก2ในการคุยแชท2วันติดกันเมื่อ14-15เดือนตุลา 58 ที่ผ่านมา ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยทั้ง2คนใส่ถุงยางอนามัยทั้ง2คนนะครับแล้วก็ไม่มีอาการอะไรจนกระทั่งกลางเดือนพฤศจิกายนก็เหมือนเป็นไข้อ่อนๆฉี่ไม่ค่อยสุดปลายอวัยวะเพศแดงหัวม่วงคร้ำแล้วก็ถ่ายไม่ค่อยออกแต่พอปรับพฤติกรรมอาการก็กลับเป็นปกติเมื่อต้นเดือนธันวาจนวันที่31ธันวาที่ผ่านมาพออาบน้ำเสร็จแล้วรูดหนังหุ้มปลายออกเพื่อล้างก็พบว่ามีรอยแดงๆเป็นวงบริเวณส่วนหัวก็คิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมากอาจแค่ห่อเลือดเพราะล้างทุกวัน(ปล.ช่วงที่เป็นไข้ตอนเดือนพฤศจิกาบริเวณหัวอวัยวะเพศจะสีม่วงๆคร้ำๆเลยใช้ครีมทาแก้อักเสบเชื้อรายี่ห้อหนึ่ง ทาบริเวณหัวทุกวันก่อนนอนด้วยอะครับ)แต่พอ2-3วันหลังจากมีรอยแดงอาการก็เริ่มแย่ลงเพราะรอยแดงเริ่มเจ็บและบริเวณริบหัวเห็ดบวมแดงและมีน้ำใสขุ่นออกมาเล็กน้อยจึงเลิกทาครีมและล้างด้วยน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นแล้วหาซื้อยาแก้อักเสบกินและใช้น้ำเกลือล้างบริเวณแผลวันต่อมาความบวมก็ลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงเจ็บและยังมีน้ำหนองใสขุ่นออกมาจากบริเวณแผลอยู่ไม่ทราบว่าอาการแบบนี้เป็นโรคอะไรครับใช่โรคแผลริมอ่อนรึป่าวครับ รึเป็นเพราะครีมครับเพราะอ่านแล้วพบว่าครีมมีส่วนผสมของเสตียรอยไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากการทาครีมรึป่าวครับ
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.13 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Kit *****n

4 มกราคม 2559 10:38:11 #2

http://haamor.com/media/images/webboardpics/KitNampun-26397.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/KitNampun-26397-2.jpg

อาการเป็นอย่างในรูปครับนี่เปนอาหารของวันที่3และ4มกราคมครับ
Kit *****n

4 มกราคม 2559 10:42:31 #3

http://postimg.org/gallery/3ed5otram/ รูปครับ
Kit *****n

4 มกราคม 2559 10:56:49 #4

http://postimg.org/gallery/13na5osnk/ ภาพเพิ่มเติมครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

5 มกราคม 2559 02:44:50 #5

ดูจากรูที่ส่งมา ลักษณะของแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ เป็นแผลตื้นๆ คล้ายเริมซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง
ในกรณีของคุณที่เป็นชายรักร่วมเพศ ถ้ามีการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยาง ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อเริมได้ นอกจากนี้มีการศึกษาพบว่าชายรักร่วมเพศมีโอกาศที่จะติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิสสูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า แนะนำตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิส โดยใช้สิทธิทีมี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ

นพ.อนุพงศ์

Kit *****n

5 มกราคม 2559 08:01:22 #6

ขอบคุณมากนะครับคุณหมอและอยากให้ดูอาการของวันนี้และยาที่ทานอยู่ครับว่ามันดีขึ้นรึป่าว

http://haamor.com/media/images/webboardpics/KitNampun-2-1.jpg

อันนี้เป็นภาพล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ครับ
Kit *****n

5 มกราคม 2559 08:05:00 #7

http://haamor.com/media/images/webboardpics/KitNampun-2-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/KitNampun-2-3.jpg

อันนี้เป็นรูปภายในช่องปากที่รู้สึกเหมือนมีปุ่มปวมขึ้น1ปุ่มแล้วก็รูปของยาที่ทานอยู่ตอนนี้ครับและอยากถามคุณหมออีกว่าถ้าเป็นโรคซิฟิลิสนี่จะสามารถรักษาให้หายขาดได้มั้ยครับ
Kit *****n

5 มกราคม 2559 08:07:31 #8

และอยากขอคำแนะนำในการดูแลตัวเองในช่วงนี้ครับว่าควรทำอย่างไรมีอะไรที่ควรทานหรือไม่ควรทานบ้าง?
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 มกราคม 2559 10:04:28 #9

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นรอยแดงๆที่บริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศ อาจจะเป็น 1. แผลเริมที่เริ่มจะแห้ง หรือ 2. ผื่นที่เป็นอาการแสดงของซิฟิลิสระยะที่ 2 ซึ่งอาจจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เป็นผื่น ไม่คันตามตัวแขน ขา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือมีไข้ ต่อมน้ำเหลอืงที่ขาหนีบโต แต่ไม่เจ็บ และเนื่องจากคุณมีประวัติเป็นชายรักร่วมเพศ มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิส แนะนำให้หมอ โดยสามารถตรวจยืนยันว่าเป็นซิฟิลิสหรือไม่ด้วยการตรวจ RPR หรือ VDRLหรือ TP ถ้าให้ผลบวก ก็เป็นซิฟิลิส รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคซิฟิลิสสามารถรักษาหายขาดแต่ต้องติดตามผลการรักษาโดยการตรวจเลือดเป็นระยะๆ แต่ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษา ก็อาจจะกลายเป็นซิฟิลิสระยะที่ 3 ที่ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบต่างๆ เช่น หัวใจ ระบบประสาท เป็นต้น ส่วนในช่องปากไม่เห็นความผิดปกติ โดยสรุป หาหมอด่วนครับ

นพ.อนุพงศ์

Kit *****n

7 มกราคม 2559 01:51:22 #10

ขอบคุณมากๆครับเดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะรีบไปตรวจเลยครับ