กระดานสุขภาพ

กังวลติดเชื้อ HIV ครับ
Anonymous

16 พฤศจิกายน 2558 09:00:19 #1

คือเริ่มเรยผมไปมีเพศสัมพันธ์กับชายคนหนึ่งทางทวารหนักเมื่อวันที่ 5 พย. ใส่ถุงยางอนามัยโดยที่เค้าเป็นคนเตรียมมา หลังจากนั้นประมาณ 1-2 วัน ผมมีอาการถ่ายปนเลือด และปวดท้องแบบบีบๆ ปรึกษาหมอ หมอบอกว่าจะเกิดจากการเสียดสีอย่างรุนแรงในลำใส้ แต่ผมไม่รู้ว่าถุงยางมันรั่วหรือป่าวครับสมมุติว่าถุงยางรั่วมีโอกาศติดเชื้อ มากน้อยแค่ไหนครับ ผมกังวลมากครับ จิตตกเรยครับ และเมื่อวานมีอาการต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ซ้ายอักเสบครับ ตึงๆ เจ็บครับ 1 เม็ด แร้วมีอาการปวดเกร็งๆที่หน้าอกซ้ายบริเวณหัวใจ และมือซ้ายมีอาการชานิดหน่อยครับ แร้วพอเหงื่อออกหรือร้อนมากๆ จะยิ่งแสบและคันบริเวณต่อมน้ำเหลืองนั้นคับ ก่อนหน้านั้นวังพฤหัสมีการแข่งกีฬา ผมรู้สึกแสบตาจากแสงแดดครับ วันนี้ต่อมน้ำเหลืองเริ่มยุบครับ แต่ผมไม่มีอาการไข้ ตัวร้อน อาเจียน ร่วมด้วยนะครับ
อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.28 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 พฤศจิกายน 2558 04:37:24 #2

มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้ ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5% หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05% ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์ 0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย ในกรณีของคุณถ้าถุงยางไม่ฉีกขาดหรือมีการถอดถุงยางระหว่างกาสอดใส่ ก็ถือว่าไม่เสี่ยง แต่ถ้าฉีกขาดก็มีโอกาสเสี่ยง 0.5% สำหรับอากรติดเชื้อโรคเอดส์มีดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เที่ยวผู้หญิงโดยไม่ใช้ถุงยาง รับบริจาคเลือด ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่อนไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจง ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการ จะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ในกรณีของคุณถ้าไม่แน่ใจแนะนำตรวจเลือดโดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ