1. และ 2 การอักเสบของต่อมลูกหมากที่เกิดจากการติดเชื้อโรค ถ้าเป็นเรื้อรัง

อาการของผู้ป่วยแต่ละคนจะไม่ค่อยเหมือนกัน อาการต่างๆที่พบได้คือ ปัสสาวะบ่อย อั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะกลางคืน เมื่อปัสสาวะจะปวด ปวดบริเวณอัณฑะและอวัยวะเพศ เมื่อหลั่งน้ำกามจะปวด ปวดหลัง ปัสสาวะมีเลือดปน ปัสสาวะเล็ด

เนื่องจากอาการของต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรังไม่มาก และชัดเจนหากสงสัยสามารถวินิจฉัยโดยการตรวจต่อมลูกหมากทางทางทวารหนัก และนวดต่อมลูกหมากเพื่อนำสารหลังไปตรวจซึ่งจะพบเม็ดเลือดขาวมาก และเพาะเชื้อพบเชื้อแบคทีเรีย

สาเหตุ เชื้อโรคมาจากแบคทีเรียทางเดินปัสสาวะ เชื้อที่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยคือ . Escherichia coli โดยเชื้อจะมาตามท่อปัสสาวะแล้เข้าสู่ต่อมลูกหมากและแบ่งตัวอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการอักเสบ จากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเชื้อที่เป็นสาเหตุคือ หนองใน(gonorrhea) chlamydia จากการส่องกล้อง

การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ ถ้าเป้นการติดเชื้อทั่วไป ให้ใช้ยาที่ออกฤทธิ์ดัในระบบปัสสาวะ เช่น ciprofloxacin, norfloxacin, ofloxacin or levofloxacin โดยให้ยา 4 สัปดาห์ ในกรณีที่สงสัยว่าจะเป็นโรคติดต่อ เช่นหนองในและหนองในเทียม ให้รักษาโดยใช้ยาฉีดรักษาโรคหนองใน เช่น ceftriaxone จากนั้นกินยารักษาหนองในเทียม เช่น doxycycline ประมาณ 1-2 เดือน

ในกรณีของคุณคงขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยง และการตรวจจากแพทญืทางระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะ ส่วนการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป อาจทำให้มีฉีกขาดของเส้นเลือดฝอยหรือเนื้อเยื่อรอบๆบริเวณอวัยวะเพศได้

3.ถุงอัณฑะจะสามารถหดเข้าหรือยืดออกเพื่อปรับอุณหภูมิให้ลูกอัณฑะสามารถผลิตน้ำเชื้อได้ จึงอาจจะสังเกตุได้ว่ามีการหดเป็นบางครั้งแต่ลูกอัณฑะก็น่าจะอยู่ในถุงอัณฑะ ในกรณีของคุณถ้าลูกอัณฑะเคลื่อนไปถึงหัวหน่าวก็อาจจะเป็นอาการของไส้เลื่อน แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ

ขอบคุณครับคุณหมอ