นี้ครับรูป ขอบคุณครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/JTP-22672-1.jpg

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลตื้นๆ แต่เนื่องจากรูปไม่ชัด ขออธิบายเรื่องแผลที่อวัยวะเพศหรือบริเวณผิวหนังที่ถุงอัณฑะดังนี้ ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศ คือมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นโรคติดต่อ เช่น แผลเริม ถ้าเป็นครั้งแรกต้องมีการติดเชื้อจากคนอื่นโดยทางเพศสัมพันธ์ และเมือ่เป็นแล้ว เชื้อเริม (HERPES SIMPLEX) จะแฝงอยู่ใต้ผิวหนัง และเป็นซ้ำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ เช่นการช่วยตัวเอง การเสียดสี เป็นต้น ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำใส แลวแตกเป็นผล รักษาความสะอาด จะหายเองได้ แต่ถ้าเป็นมากก็ใช้ยา acyclovir ชนิดกิน ส่วนชนิดทาไม่ค่อยมีประโยชน์นัก หรืออาจจะเป็นแผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เป็นหลังติดเชื้อ 10-90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ ถ้าไม่รักษาจะเป็นระยะที่ 2 มีผื่นขึ้นตามตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักษาโดยการฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านหน่วย พบมากในชายรักร่วมเพศ แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง เช่น ยังไม่เคยร่วมเพศ หรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ อาจเป็นแผลจากการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไปที่พบตามผิวหนัง รักษาโดยกินยาแก้อักเสบทั่วไป เช่น Dicloxacillin หรืออาจเป็นผิวหนังอักเสบจากการแพ้หรือระคายเคือง เมื่อมีการเกา จะเป็นแผล รักษาโดยการงดใช้หรือไม่ให้สัมผัสกับสารที่สงสัยว่าจะแพ้ เช่น สบู่ยา น้ำยาฆ่าเชื้อ กินยาแก้แพ้แก้คัน เช่น atarax 25 มิลลิกรัม 1 เม้ด เช้าเย็น หรืออาจ เป็นเชื้อรา เนื่องจากความอับชื้น จึงอาจเป็นเชื้อรา ซึ่งการรักษาจะต่างกัน โดยต้องใช้ยาเชื้อราทา เช่น clotrimazole, ketaconazole ทาเช้าเย็น และถ้าเป็นมากต้องกินยาเชื้อราด้วย

โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมทางเพศ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนัง สามารถใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง บัตรประกันสังคม เป็นต้น