กระดานสุขภาพ

เป็นเริมซ้ำควรกินยามั้ยครับ
Anonymous

3 มิถุนายน 2558 05:52:25 #1

ครั้งนี้เปนซ้ำครั้งที่3 คือผมถามว่าถ้าเป็นแล้วควรกินยาเลยทันทีหรือควรปล่อยไว้ให้มันหายเอง ผมกลัวมันดื้อยาอ่ะครับ เพราะ2ครั้งที่ผ่านมาพยายามไม่กิน แต่พอไม่กินก็ขึ้นอีกจนต้องกินถึงหาย ครั้งแรกเปนตอนกันยา แล้วมาเปนอีกทีเมษา ครั้งที่3คือตอนนี้แต่ผมงงว่าทำไมครั้งนี้แผลยุบเร็วมาก 2วันเปนแผลแตกแล้ว ขอบคุณล่วงหน้าครับ
อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.68 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 มิถุนายน 2558 15:18:50 #2

เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล รักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ซึ่งอาจจะไม่ต้องกินยา แต่ถ้าการเป็นซ้ำ แผลมีหลายแผลและหายช้า ก็อาจจะกินยาได้ ซึ่งจะทำให้หายเร็วขึ้น และยังช่วยให้การเป็นซ้ำห่งออกไปได้ ในกรณีของคุณ ถ้าเป็นแล้วหายหรือตุ่มยุบหรือแตกแล้ว ก็อาจจะต้องไม่ต้องกินยา ซึ่งการกินยานั้น จะได้ผลดีเมื่อกินยาเร็วที่สุด หรือทันทีที่เริ่มรู้ตัวว่าจะเป็นเริม

Kitt*****m

4 มิถุนายน 2558 18:19:02 #3

ถ้าเป็นเริมหรือผื่นแดงๆเเล้วมีอะไรกับแฟน แฟนจะติดมั้ยคับคุณหมอ ควรทำเช่นไรคับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 มิถุนายน 2558 14:37:27 #4

สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น เริ่มเป็นตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล ส่วนเรื่องแผลเริมที่ปาก ถ้าไม่ได้มีการสัมผัส ก็ไม่ติด แต่ต้องระวังว่าอาจมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศด้วยหรือไม่ โดยสรุป จะติดง่ายเมื่อมีตุ่มน้ำหรือเป็นแผล

Anonymous

7 มิถุนายน 2558 16:25:05 #5

เริมเปนซ้ำควรกินยา 5 วันใช่มั้ยครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 มิถุนายน 2558 16:12:58 #6

กินยาประมาณ 5-7 วัน ตามความรุนแรงของแผลครับ เช่นถ้ากินครบ 5วัน แผลเริ่มแห้งก็หยุดกินได้ แต่ถ้าแผลยังแฉะอยู่หรือมีน้ำเหลืองก็ให้กินต่อจนครบ 7 วัน ในบางคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ แผลหายช้า ก็อาจจะต้องกินต่อถึง 10 วัน