กระดานสุขภาพ

มีถุงน้ำในมดลูกเเล้วประจำเดือนไม่มา
Anonymous

4 มีนาคม 2558 04:13:55 #1

สวัสดีค่ะ คือหลังจากรอบเดือนไม่มา 2 เดือนกว่าเเล้วไปตรวจเจอถุงน้ำขนาด 2 ซม. ในมดลูก ถุงน้ำนี้มีผลต่อประจำเดือนไหมค่ะ เเล้วถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จะท้องไหมค่ะ  

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

5 มีนาคม 2558 15:31:06 #2

หมออาจต้องถามย้ำเพื่อความเข้าใจไม่คลาดเคลื่อนนะครับ เนื่องจากคำว่า ถุงนำ้ในมดลูกนั้น หากหมายถึง ตรวจพบถุงน้ำในโพรงมดลูกเลยนั้น และ ประจำเดือนไม่มา ถุงน้ำนั้น อาจเป็นถุงการตั้งครรภ์ก็ได้ครับ หรือ อาจเป็นติ่งเนื้อ หรือ ที่เรียกว่า polyp แต่หากเป็นถุงน้ำที่อยู่ในอุ้งเชิงกราน ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่บริเวณปึกมดลูกหรือรังไข่ครับ ดังนั้น หมออาจต้องถามเพื่อการแนะนำที่ถูกต้องครับ เนื่องจากตำแหน่งที่ต่างกันนั้น ตัวโรคและผลต่างกันอย่างชัดเจนครับ

Anonymous

6 มีนาคม 2558 17:40:04 #3

เป็นถุงน้ำที่อุ้งเชิงกรานค่ะ ตอนเเรกเหมือนจะเป็นซีสค่ะ เเต่พอฉีดยาแล้วก็กินยาไปตรวจอีกทีก็ไม่เจอค่ะแต่ประจำเดือนยังไม่มา และตอนนี้ประจำเดือนทิ้งช่วงมาจะ 3 เดือนเเล้วค่ะเพราะมาครั้งสุดท้าย 25 ธันวาคม 2557 ค่ะ มีอาการน้ำหนักขึ้นเร็ว เเละลดไม่ลง เมื่อออกกำลังกาย(วิ่ง)จะเจ็บเเสบที่บริเวณเชิงกรานด้านซ้ายค่ะ เคยซื้อชุดตรวจมาตรวเเล้วไม่ได้มีการตั้งครรภ์ค่ะ รบกวนคุณหมอหน่อยน่ะค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 มีนาคม 2558 15:43:03 #4

หมอคิดว่า หากตรวจซ้ำแล้ว ปกติดีไม่พบแล้วนั้น น่าจะเป็นถุงน้ำรังไข่ที่เรียกว่า corpus luteal cyst ครับ ซึ่งไม่ได้เป็นเนื้อร้าย หรือความผิดปกติอะไรครับ แต่ผลของประจำเดือนไม่มา และ ตรวจการตั้งครรภ์แล้วปกตินั้น อาจเกิดจากสาเหตุจากยาฉีดและยาที่ทานไปครับ ซึ่งหากเป็นในกลุ่มฮอร์โมน ก็สามารถทำให้ไข่ไม่ตกและ ส่งผลต่อให้ประจำเดือนไม่มาตามรอบได้ครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ