เพิ่มเติมอีกนิดครับ คือถ้าแค่ตรวจภายใน ไม่ได้อัลตร้าซาว จะทราบได้หรือเปล่าท้องหรือไม่ท้อง

จากอาการที่บอกมาแฟนคุณมีอาการท้องผูกค่อนข้างรุนแรง ไม่ถ่ายอุจจาะถึง 4-5 วัน เมื่อนานวันเข้าอุจจาระจะมีความแข็งตัวมากเพราะน้ำถูกดูดออกจากตัวอุจจาระไป จึงทำให้อุจจาระแข็งตัวมาก เมื่อเบ่งก็จะออกลำบาก จนเกิดอาการปวดหน่วงที่ท้องน้อย เมื่อนานวันเข้าอุจจาระมีการสะสมมากขึ้น ปริมารที่มากก็จะมีการอุดตันที่ลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง จนทำให้ลำไส้เล็กส่วนบนมีการบีบรัดตัวไม่ได้ดี เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดเกร็งที่ท้อง ลักษณะการปวดจะบีบคลาย บีบคลาย เป็นระยะๆ เพราะลำไส้จะพยายามลีบตัวเอาอุจจาระปลายทางออก จนมีอาการปวดท้องที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถ่ายอุจจาระอาการเหล่านี้จะหายไป ไม่เกีี่ยวกับอาการทางช่องคลอดหรือระบบของอวัยวะสืบพันธ์เลย ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดังกล่าว จะต้องพยายามนั่งขับถ่ายให้เป็นเวลา ดื่มน้ำสะอาดบริสุทธ์ให้มาก วันละ 2-3 ลิตร อาจจะต้องตวงไว้เลยว่าดื่มได้ตามนั้นหรือไม่ รับประทานผักผลไม้ที่มีกากหรือเส้นใยให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มไฟเบอร์จะได้ไม่มีอาการท้องผูก ขับถ่ายสะดวก ส่วนอาการแพทย์ถามเรื่องการตั้งครรภ์นั้นอาจจะเป็นเพราะแพทย์มีความสงสัยบางอย่างว่าคุณอาจจะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะตั้งครรภ์ ถ้าประจำเดือนมาสม่ำเสมอปกติดีดี และมีการป้องกันการตั้งครภร์เป็นอย่างดีก็ไม่ควรกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ ในกรณีที่ไม่มั่นใจว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ควรตรวจปัสสาวะทดสอบการตัง้ครรภ์ร่วมด้วย จะได้ทำให้สบายใจขึ้น ลดความเครียดหรืออาการท้องผูกด้วยค่ะ

**เพิ่มเติมครับ**

แต่หลังจากกินยาถ่ายแล้ว นี่ก็เป็นเวลา 2 วันหลังจากวันที่ได้ยาถ่ายมาคือวันที่ 5 ก็กินยามาตลอด และก็ถ่ายบ้าง แต่ก็ยังมีอาการปวดท้องอยู่อะครับ ยังมีอาการหน่วงๆ จนบางทีปวดหนัก อาการแบบนี้คืออะไรครับ ถ้าปล่อยไว้แล้วถ่ายปกติจะหายไหมครับ

รบกวนอีกครั้งครับ ขอบคุณครับ

ถ้าไม่มีอาการท้องผูก สามารถขับถ่ายได้ตามปกติแล้ว แต่ยังมีอาการปวดท้องอยู่ถือว่าผิดปกติ ควรมาพบแพทยืเพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เพราะอาจจะเป็นถุงน้ำที่รังไข่ หรือความผิดปกติอื่นในอุ้งเชิงกราน ควรมารับการตรวจภายในและอัลตราซาวด์เพื่อประเมินอีกครั้ง บางภาวะอาจมีความจำเป็นต้องทำผ่าตัด เช่น ถุงน้ำที่รังไข่ที่มีขนาดใหญ่และมีการบิดหรือภาวะแทรกซ้อนของก้อน เช่น การแตก ค่ะ