กระดานสุขภาพ

ีรบกวนคุณหมอ ครับ
Anonymous

29 มกราคม 2558 07:11:09 #1

พอดีมี ตุ่ม เม็ดเล็กๆ ที่ บริเวณถุง อัณทะ ครับ รุ้สึก คัน แสบ นิดๆ ครับ ลองใช้แนบ บีบดู เหมือนมีน้ำ นิดๆครับ ไม่ทราบว่า เป็นเพราะอะไรครับ 

และอีกคำถามครับ อันนี้ ลองสังเกตุ มา ระยะนึงแล้ว ครับ จะมี ผื่น บริเวณ ปลายอวัยวะเพศ ตรง คอหยัก น่ะครับพอดีเนียกไม่ถูกเป็น รอบๆ น่ะครับ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรครับ และจะรักษา ได้ไหมครับ  ขออณุญาติ ส่งรูป ทาง เมล์นะครับ เนื่องจาก ฝากรูป ไม่ได้ครับ 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/f0e73-19637-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/f0e73-19637-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/f0e73-19637-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/f0e73-19637-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/f0e73-19637-5.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/f0e73-19637-6.jpg

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.26 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

30 มกราคม 2558 05:17:08 #2

ถึง คุณ f0e73

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ f0e73 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ f0e73 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

30 มกราคม 2558 11:51:19 #3

เรื่องตุ่มที่เป็นรอบๆบริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศเป็นตุ่มที่เกิดตามธรรมชาติ เรียกว่า Pearly penile papule เป็นภาวะปกติที่พบได้ จะเป็นรอบๆส่วนหัวเรียงเป็นแถว 1-3 แถว หรืออยู่ 2 ข้างของเส้นสองสลึง ในบางคนอาจเล็กจนสังเกตุไม่เห็น แต่บางคนอาจใหญ่จนดูไม่สวย ทางการแพทย์ถือว่าปกติ ไม่ต้องรักษา การใช้ยาสีฟันทาตามที่ถามมาไม่น่าจะได้ผล ในกรณีที่มีขนาดใหญ่และมีมากจนดูไม่สวย มีการใช้เลเซอร์ทำให้เล็กลงหรือจางลง แต่ก็อาจมีขนาดใหญ่ขึ้นมาเหมือนเดิม แนะนำว่าไม่ต้องทำอะไร ส่วนผื่นหรือตุ่มที่อัณฑธ เนื่องจากรูปที่ส่งมาไม่ชัด ไม่เห็นรายละเอียด

คงต้องเริ่มที่ประวัติเศสัมพันธุ์ คือถ้ามีความเสี่ยง เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคนโรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง ก็อาจเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกาจนเป็นแผลติดเชื้อ แนะนำหาหมอผิวหนังหรือส่งรูปถ่ายชัดๆมาใหม่และให้ประวัติเพศสัมพันธุ์มาด้วย