กระดานสุขภาพ

มีเรื่องให้คุณหมอช่วยครับบ!!!
Anonymous

3 มกราคม 2558 16:47:29 #1

สวัดดีครับคุณหมอ: ผมอยากจะถามคุณหมอครับว่าแฟนผมเขาเป็น ตกขาว มันเปนน้ำใสๆ เหมือกๆ ใช่ไหมครับ อันนี้ ผมไม่แน่ใจ ผมกับแฟนผมมีเพศสัมพันกันครับ ตอนสอดใส่ผมก็สวมถุงยางอนามัยครับทำไปทำมามีความรู้สึกเหมือนจะหลั่งน้ำอสุจิออกมา แต่ผมก็ไม่ได้หลั่งออกมา พอทำไปได้สักพักผมดันไปหลั่งน้ำอสุจิข้างในด้วย ที่สวมใส่ถุงยางอยู่ ตอนดึงออกมันมีน้ำอะไรไม่รู้ครับเต็มของแฟนไปหมดเรย ไม่รู้ว่าเป็นตกขาวหรือเป็นน้ำอสุจิอ่าครับ เห็นแฟนบอกว่าแฉะเต็มของเค้าหมดเรยครับ หยดลงที่นอนด้วยครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นน้ำอะไร จากนั้นผมก้อพาเค้าไปล้างน้ำ เค้าจับดูมันเหมือนเป็นน้ำเหมือกๆ ครับ กังวลไม่รู้ว่าเป็นน้ำอสุจิหรือป่าวครับ

ผมอยากรู้ว่า: ที่มันมีน้ำออกมาด้วยขณะตอนถอดออกมา มันคือน้ำอะไรครับ? มันเปนน้ำอสุจิหรือป่าวครับ จะท้องหรือป่าวครับ ผมมีเพศสัมพันกันวันที่ 3 ม.ค ตอนนี้ซ้ืออย่าคุมให้ กินแล้วครับ ยาคุมกำเนิดจะเกิดผลข้างเคียงไรไหมครับ? ถึงขั้นเสียชีวิตหรือป่าวครับ? แล้วยาคุมฉุกเฉินกับยาคุมกำเนิดมันตัวเดียวกันไหมครับ คุณหมอพิจารณาด้วยนะครับ

อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 185ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

4 มกราคม 2558 14:46:25 #2

ถึง คุณ bbbc8

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ bbbc8 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ bbbc8 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

5 มกราคม 2558 14:20:10 #3

ถ้าสวมใส่ถุงยางแต่ถอนอวัยวะเพศออกมาไม่ทัน หลังมีการหลั่งและอวัยวะมีหารหดตัวลงก็จะทำให้ถุงยางหลวม ไม่กระชับ และถ้าปริมาณน้ำอสุจิมีมากด้วย ก็อาจจะทำให้น้ำอสุจิไหลล้นถุงยางและปนเปื้อนเข้าไปภายในช่องคลอดได้ น้ำที่ไหลออกมาปริมาณมากจนแฉะเปียกที่นอนก็น่าจะเป็นน้ำอสุจิ เพราะถ้าเป็นหล่อลื่นของแฟนที่ปกติ ปริมาณจะไม่มากจนไหลล้นออกมา ทั้งนี้ จะทำให้แฟนคุณมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ถ้าช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ตรงกับช่วงไข่ตกพอดี การป้องกันการตั้งครรภ์จะต้องทานยาคุมฉุกเฉิน ไม่ใช่ยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งจะต้องทานทันทีไม่เกิน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าให้ดีก็ต้องภายใน 1 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และจะต้องไม่ใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้งเกินไป หรือเกิน 2 ครั้งต่อเดือน เพราะจะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ และอาจจะทำให้เกิดการตัง้ครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น ครรภ์นอกมดลูก ส่วนยาคุมกำเนิดทั่วไปไม่ใช่ตัวเดียวกับยาคุมฉุกเฉิน เป็นชนิดแผง 21 หรือ 28 เม็ด จะต้องทานในช่วงที่มีประจำเดือนมาไม่เกิน 5 วัน และอาจจะไม่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ถ้าทานยาไม่ถูกวิธี ตอนนี้คงต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน ถ้าไม่มาก็ควรตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์ ส่วนยาคุมชนิดแผงที่ทานก็ไม่น่าจะช่วยอะไรได้ ยกเว้นจะไปซื้อยาคุมฉุกเฉินให้ทาน ถ้าอยู่ภายใน 48 ชั่วโมง ก็อาจจะได้ผลอยู่บ้างค่ะ