กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มาเกือบ 2 อาทิตย์จะท้องมั้ยค่ะ
PPPP*****H

17 ธันวาคม 2557 15:48:37 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ

อยากสอบถามค่ะว่า ประจำเดือนล่าสุด วันที่ 11 พ.ย. ค่ะ หลังจากประจำเดือนหยุดก็ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนค่ะไม่ๆด้ใส่ถุงค่ะ แต่พอแฟนเสร็จก็จะปล่อยที่ใต้สะดือค่ะบ้างครั้งมันก็ไหลมาโดนน้องของดิฉัน แต่ไม่เคยเสร็จด้านในนะค่ะ จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนค่ะ จะมี่อะไรกันบ่อยพอสมควร พอครบกำหนดประจำเดือนมาประมาณวันที่ 8 ธ.ค. แต่กลับไม่มาค่ะผ่านมาอาทิตย์หนึ่งเลยซื้อที่ตรวจมาตรวจไม่ท้องค่ะ รอเกือบ 2อาทิตย์แล้วก็ยังไม่มา อย่างงี้จะเริ่มท้องรึป่าวค่ะ

อายุ: 27 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Ocon*****g

17 ธันวาคม 2557 16:16:22 #2

(คือผมไม่ใช่หมอน่ะครับ แต่เข้ามาอ่านกระทู้แล้วอยากจะแชร์ประสบการณ์)

แฟนผมก็เคยเป็นครับประจำเดือนไม่มา บางทีข้ามเดือน 

สาเหตุสำคัญคือเรากังวน เครียดกับเรื่องนี้มากเกินไป จนทำให้ประจำเดือนไม่มาตามปกติ 

* ถ้าให้ดีไม่ต้องมากังวัล ซื้อถุงยางมาใช้เถอะครับ ไปซื้อครั้งแรกอาจจะอายหน่อย เดี๋ยวซื้อบ่อยๆก็ชินไปเอง (ผมชินแล้ว)

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

19 ธันวาคม 2557 16:14:24 #3

หากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ตรงรอบดี วันที่มีเพศสัมพันธ์นั้นอยู่ในช่วงหลัง 7 วันหลังจากมีประจำเดือนวันแรก ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ ที่สำคัญคือ นับจากวันแรกนะครับ แต่ว่า วิธีการนับวันนี้ ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการนับวันเพื่อเป็นการคุมกำเนิดนะนครับ มีไว้เพื่อช่วยคำนวณวันที่มีโอกาสที่จะมีการตั้งครรภ์มากที่สุดในผู้ที่มีบุตรยาก และอีกประการคือ หากเพศสัมพันธ์นั้น มีการสอดใส่อวัยวะเพศ แม้จะไม่ได้หลั่งด้านในก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์จะมีอสุจิออกมากับสารคัดหลั่งที่ออกมาในช่วงนี้ แม้ปริมาณอสุจิจะน้อย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ ดัวนั้น จากกรณีดังกล่าวก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ และ หากประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

สุดท้าย หมอขอแนะนำการใช้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดี และ เป็นวิธีที่ป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน ครับ อย่างแรกคือ การใช้ถุงยางอนามัยนั้นซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนอีกวิธีคือในฝ่ายหญิงครับ คือ การทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครัน ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ