กระดานสุขภาพ

ปรึกษาโรคทางเพศสัมพันธุ์
Maop*****1

19 ตุลาคม 2557 06:40:20 #1

ตอนแรกๆ ผมคิดว่าเป็นโรคหนองในเพราะ เวลาปัสสาวะจะกลั้นไม่อยู่แล้วเวลาปัสสาวะจะแสบ ขัด มีหนองไหล ในกางเกงในนี้หนองเต็มเลย 55 5 มีกลิ่นเหม็นด้วย จากนั้นผมเลยไปหาหมอ ซึ่งได้ยามากิน คือ Ciprofloxacin และ Doxycycline ให้มาทานครบ 7 วันอาการเจ็บหายแต่หนองยังคงออก แต่ลดลงกว่าเดิม จนผมต้องไปหาหมออีก ซึ่งได้ยามากินอีก ให้มากิน 14 วัน ครบ 14 วันหนองก็ลดลงจนหยุด แต่ยังคงมีอยู่เวลาปัสสาวะออกมา จากนั้นผมได้ไปหาอีก ซึ่งรอบนี้ได้ยามา คือ Doxycycline , Metronidazole และ Ofloxacin จนตอนนี้หนองหยุดไหลแต่ ยังมีหนองอยู่เวลาปัสสาวะ แต่ไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรเลยนะครับ ซึ่งผมอยากรู้ว่า ตกลงมันเป็นโรคอะไรกันแน่ ทำไมมันยังไม่หาย เวลาปัสสาวะ หนองปนออกมานิดเดียวเองนะครับ ไม่ได้เยอะอะไร มีปนออกมาแค่นิดเดียวจริงๆ จึงอยากมาสอบถามตกลงผมเป็นโรงหนองในหรือ ท่อปัสสาวะอักเสบกันแน่

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 63 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.80 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

21 ตุลาคม 2557 02:26:41 #2

อาการมีหนอง ปัสสาวะแสบ

1. ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนอีกสาเหตุที่พบได้คือหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆเช่นในกรณของคุณ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค การตรวจธรรมดาอาจตรวจไม่พบ ต้องใช้การเพาะเชื้อ เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่รวมทั้งแฟนประจำด้วยครับ นอกจากนี้ยังพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน

แต่ถ้า 2. ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่นยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็อาจจเกิดจากการอักเสบจากเชื้อแบทีเรียทั่วไป

สรุป ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง ก็อาจเป็นทั้งหนองในและหนองในเทียม แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยงก็อาจเป็นการอักเสบทั่วไป ในกรณีที่เป็นหายๆ อาจเกิดจากการดื้อยา แนะนำหาหมอกามโรคหรือระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ

Maop*****1

22 ตุลาคม 2557 08:04:58 #3

ครับคุณหมอ ตอนที่ผมเป็นผมได้เลิกกับคู่นอนของผมแล้ว แล้วทำการรักษามาตอนนี้คือมีหนองขุ่นๆขาวนิดเดียว เวลาปัสสาวะแค่นั้นครับ  ไม่มีอากาศอย่างอื่นเลย ซึ่งตอนนี้ทานยา Ofloxacin และ Doxycycline อยู่ซึ่งใกล้จะหมดแล้วละครับ  กลิ่นหนองก็ไม่มีเหมือนเมื่อก่อน  หนองสีขุ่นๆขาวๆครับ ผมควรพบไปหาหมออีกมั้ยครับ กินยามาเป็นเดือนแล้ว แต่ยังไม่เคยฉีดยานะครับ 

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 ตุลาคม 2557 05:45:35 #4

ถ้าจะให้รู้แน่นอนว่าหายหรือไม่ จะต้องเอาหนองขุ่นๆที่เห็นมาย้อมดูว่าเป็นการอักเสบหรือไม่หรือเป็นหนองในที่ดื้อยาหรือไม่ รวมทั้งอาจจะต้องเพาะเชื้อด้วย แนะนำหาหมอกามโรคหรือหมอระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ