กระดานสุขภาพ

จะท้องไหมคะ
Anonymous

4 ตุลาคม 2557 17:29:41 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันไม่มั่นใจค่ะ

26/8/57 เมนส์มาวันแรก ดิฉันเริ่มกินยาคุมรายเดือนครั้งแรก กินมาเรื่อยๆ เมนส์มาถึงวันที่ 2 กันยา รวมเป็น 10วันค่ะ ปกติเมนส์มา4-5 วันไม่มากไปกว่านั้น พอกินยาคุมมาเรื่อยๆ วันที่ 5กันยา เริ่มมีตกขาวแต่เป็นคล้ายๆสีเลือดคล้ำๆปนมากับตกขาว เป็นมา2-3 วัน (ช่วงนั้นใส่แคร์ฟรีด้วย) พอจากนั้นกบายเป็นเลือดสีดำคล้ำ 5วัน พร้อมมีก้อนเลือดคล้ำติดมาด้อย(ใช้ผ้าอนามันแบบสอดค่ะ) ก็มีเหมือนตกขาวมาเกาะแต่เป้นตกขาวที่มีสีดำคล้ำปนมาด้วยอ่ะค่ะ ทีนี้เป็นมาถึงวันที่ 15 กันยา ยาคุมหมดแผง พอ3วันให้หลัง ก็ไม่มีอาการดังกล่าว  คือสรุปที่ผ่านมาเป็นเพราะดิฉันมีฮอร์โมนมากเกินไป (เภสัชกรเขาว่างี้อ่ะค่ะ) จึงมีเลือดออก 

แล้วทีนี้วันที่ 26 กันยา (ปกติก่อนกินยาคุมรายเดือน รอบเดือนดิฉันจะมีช่วงวันที่ 26-30 ของทุกเดือน บวกลบ 3วัน) ดิฉันมี พสพ. กับแฟนดิฉัน ตอนแรกไม่ใส่ถุงค่ะ มีแค่น้ำหล่อลื่น พอใกล้เสร็จ จึงใส่ถุง (ปกติทำแบบนี้มาตลอดแต่ไม่ท้อง) 26-27-28 ทำทุกวันค่ะ เหมือนเดิมตลอดคือไม่ใส่ถุงตั้งแต่แรก คือกลัวว่า ที่กินยาคุมแบบรายเดือนครั้งนั้น กลัวว่าจะทำให้มีการฟอร์มตัวของผนังมดลูกผิดปกติไปค่ะ ตอนนี้คิดว่าเมนส์จะมาในช่วงวันที่ 3-4 แต่ยังไม่มาเลย คิดว่าช่วงที่ดิฉันมี พสพ. กับแฟนดิฉัน จะเป็นช่วงของการตกไข่พอดีอ่ะค่ะคุณหมอ ดิฉันจะท้องไหมคะ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 162ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.05 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

5 ตุลาคม 2557 18:02:11 #2

ในเรื่องเลือดที่ผิดปกติ ดำๆคล้ำๆนั้น ออกมาพร้อมกับตกขาว เกิดจากเลือดออกมาสัมผัสกับกรดในช่องคลอดทำให้เห็นเป็นสีดำๆคล้ำๆได้ครับ ส่วนเรื่องตกขาวนั้นจะสัมพันธ์กับฮอร์โมนมากนั้น โดยปกติแล้วการทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนนั้นจะมีสารคัดหลั่งในช่องคลอดได้เล็กน้อยครับ แต่จะไม่ถึงกับเป็นตกขาว ดังนั้น หากตกขาวลักษณะดังกล่าวนั้น มีลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชู่เปียกหรือ นมโยเกิร์ตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

ในเรื่องของการทานยานั้น เท่าที่หมอดูจากวัน น่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด โดยปกติจะให้ทานภายใน 1-5 วันแรกของประจำเดือน แต่จากกรณีดังกล่าวที่มีเลือดออกค่อนข้างนานหมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดเม็ดแรกนั้นในวันที่ 3-5 นะครับ อาจทำให้เลือดดังกล่าวลดน้อยลงครับ

ส่วนในกรณีหลังนั้น หากรอบนี้ไม่ได้มีการทานยาคุมกำเนิด และ ไม่ได้ป้องกันอื่น การมีเพศสัมพันธ์แบบนี้ในช่วงที่สอดใส่อวัยวะเพศ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านใน ก็จะมีอสุจิออกมาในช่วงนี้แม้ในปริมาณที่น้อยแต่ก็อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้นะครับ

Anonymous

5 ตุลาคม 2557 19:45:32 #3

ค่ะ คุณหมอ อยากทราบ ช่วงที่มี พสพ. เนี่ย ไข่จะตกมั้ย (เพราะกินยาคุมแล้วอาจจะทำให้มีการตกไข้ผิดปกติอ่ะค่ะ) คือตอนนี้เมนส์ยังไม่มา หรืออาจจะเป็นเพราะเครียดก็ไม่ทราบเหมือนกัน ถ้าตรวจฉี่กับที่ตรวจครรภ์จะพอรู้มั้ยคะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

8 ตุลาคม 2557 02:16:23 #4

หากทานยาคุมกำเนิดตามรอบปกติ สม่ำเสมอ ก็จะไม่ทำให้มีการตกไข่ครับ แต่หากรอบเดือนนี้ไม่ได้ทาน ก็จะทำให้มีไข่ตกได้ครับ ดังนั้น หากกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

อีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ลักษณะประจำเดือนผิดปกติได้นั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และอาการกะปริดกะปรอยไม่ดีขึ้น มาไม่เป็นรอบก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ