กระดานสุขภาพ

เครียดมากจริงๆ จะท้องมั้ย ใช้นิ้ว ปวดหลัง กรดไหลย้อน
ELIC*****A

26 กันยายน 2557 15:24:59 #1

ช่วยตอบหน่อยนะครับ เครียดกันมากจริงๆ จะท้องมั้ยผมกับแฟนโดยที่ไม่ได้ใช้อวัยวะสอดใส่ ผมใช้นิ้วเข้าไป ไม่แน่ใจว่ามีน้ำหล่อลื่นโดนนิ้วมั้ย ผ่านไปสองอาทิตเราก็ทำเช่นเดิม แต่วันต่อมาแฟนผมรู้สึกว่า ประจำเดือนยังไม่มาเลยกังวล จึงกินยาคุมฉุกเฉินไป ตรวจครรภ์ ผลไม่ท้อง ซึ่งเรายังไม่เชื่อ จากนั้นอาทิตย์ต่อมา ก็ตรวจอีก ตอนเช้า ผลไม่ท้อง เราก้เลิกกังวล จากนั้น 2 อาทิตคือปัจจุบัน แฟนผมปวดหลัง และเป็นกรดไหลย้อน กินอะไรก้อิ่มง่าย แต่เทอเปนโรคกระเพราะอยู่แล้ว. คนท้องเปนกรดไหลย้อน จึงทำให้เกลับมาเครียดอีกครั้ง ปรึกษาหน่อยครับ คือ มีโอกาสท้องได้มั้ย หลังจากกินยาคุม 7 วัน ประจำเดือนมา แต่อาจจะผลจากยา ซึ่งตอนนี้ ประจำเดือนยังไม่มา ถ้าปกติ จะมาอีก อาทิตหน้า ขอบคุณครับ 

อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 73 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

28 กันยายน 2557 15:41:49 #2

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ได้ครับ แต่จากประวัติดูเหมือนจะทานไปหรือไม่ครับ ซึ่งการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ดังนั้น เลือดที่ออกมานั้น เป็นผลของยาก็ได้ครับ

ส่วนอาการต่างนั้น ไม่ได้เป็นอาการของการตั้งครรภ์นะครับ และ ลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป หรือ ประจำเดือนขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์แล้วก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ