กระดานสุขภาพ

กังวลและสงสัยค่ะ
Anonymous

26 กันยายน 2557 08:33:00 #1

โดยปกติรอบวงจรประจำเดือน อยู่ที่ 30-34วัน มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ โดย 2 เดือน ล่าสุด รอบเดือนอยู่ที่ 31 วัน โดยประจำเดือนล่าสุด มาวันแรกวันที่ 24 สิงหาคม และวันสุดท้าย 28 สิงหาคม และเดือนก่อนหน้านั้น มาวันที่ 24 กรกฏาคม และวันสุดท้าย 28 กรกฏาคม

โดยปกติที่มีกิจกรรมจะคุมกำเนิดโดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง แต่เมื่อวันที่ 21 กันยา มีการทำกิจกรรมและถุงยางอนามัยแตก ซึ่งรู้หลังจากตอนเสร็จกิจแล้ว แต่ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินกันไว้ เพราะคิดว่า รอบเดือนใกล้จะมาแล้ว (ใช้วิธี หน้า7เข้าช่วย) เพื่อคลายความสงสัย ไม่ทราบว่า เคสนี้เสี่ยงต่อการตั้งท้องมั้ยคะ เพราะวันนี้ วันที่ 26 แล้ว รอบเดือนยังไม่มาเลยค่ะ

แล้วถ้าอนาคตเกิดเคสแบบนี้อีก ไม่ทราบว่า จะมีวิธีการป้องกันแบบไหน ที่ไม่ต้องกินยาคุมฉุกเฉินมั้ยคะ เพราะพึ่งเคยเกิดเคสนี้เป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาก็คุมปกติดี ไม่มีปัญหาเลยค่ะ

รบกวนคุณหมอ ช่วยสอนเรื่องนับวันไข่ตกด้วยนะคะ เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมคร่าวๆค่ะ ขอบคุณค่ะ

อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.35 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

28 กันยายน 2557 15:39:52 #2

การคำนวณวันตกไข่นั้น จะใช้ได้แม่นยำในคนที่มีประจำเดือนสม่ำเสมอนะครับ ซึ่งการคำนวณจะต้องคำนวณจากระยะระหว่างรอบประจำเดือน โดยจะนับจากวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาย้อนไป 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน เช่น ในกรณีนี้หากรอบเดือนประมาณ 31 วัน และวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาเป็นวันที่ 24 ดังนั้นวันที่ตกไข่ ก็จะเป็นวันที่ 10 กันยายน ครับ (24-14=10) โดยประมาณครับ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้าและหลังวันนี้ 2 วัน คือ ช่วง 8 - 12 กันยายน จะเป็นช่วงที่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้สูงครับ ซึ่งจากรอบเดือนและวันที่มีเพศสัมพันธ์นั้น มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ค่อนข้างน้อยนะครับ

แต่อย่างไรก็ตาม หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้นใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา ขาด รั่ว หรือ ปริแตก การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

ซึ่งหากตรวจออกมาแล้วปกติ ไม่ตั้งครรภ์ เรื่องประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป หรือ ประจำเดือนไม่มา ขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ

Anonymous

29 กันยายน 2557 01:55:34 #3

ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับคำแนะนำ มีความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ