กระดานสุขภาพ

มีประจำเดือน+แตกใน+กินยาคุมฉุกเฉิน
Anonymous

20 กันยายน 2557 04:27:10 #1

ช่วยหนูด้วยนะคะ คือแบบว่า ประมาน 2 อาทิตย์ที่แล้วหนูได้กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วพอมาวันจันทร์ที่15กันยายน ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนคะ แต่ใส่ถุงยางนะคะ แล้วพอมาตอนเช้าของวันอังคารที่ 16 กันยายน ได้มีประจำเดือนมา ประมาน 3 วันอะคะ อยากทราบว่า 1.จะเป็นเลือดประจำเดือนหรือเป็นเลือดจากการที่กินยาคุมฉุกเฉินคะ แล้ววันพฤหัสที่ 18 กันยายน ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีกครั้งแต่ใส่ถุงยางนะคะแล้วแตกใน(แฟนบอกว่าถุงยางมันเล็กอะคะ) แฟนเลยไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้กิน อยาทราบว่า 1.จะท้องมั้ยคะ เพราะกินยาคุมฉุกเฉินภายใน 1 ชม. หลังจากมีเพศสัมพันธ์เลยคะ 2.ไปหาตามเว็บต่างๆเขาบอกว่า ไม่ท้องเพราะการที่มีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือนไม่เป๋นไร แล้วยังอยู่ในช่วง หน้า 7 หลัง 7 เชื่อถือได้มากแค่ไหนคะ 3.แต่ตอนนี้หนูกินยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้แล้วนะคะ จะเป็นอะไรหรือเปล่า ? 4.แล้วประจำเดือนเดือนนี้ยังจะมาอยุ่อีกรึเปล่าคะ เครียดคะ กลัวท้อง เครียดมาก ๆเลยย 5.ได้ยินเพื่อนๆพูดกันว่าถ้าการที่ดื่มสุราแล้วมีเพศสัมพันธ์อสุจิจะไม่แข็งแรงใช่มั้ยคะ หรืออะไรยังไงคะ ***********ช่วยตอบทีนะคะ เครียดมากเลย************** ขอบคุนคะ

อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.36 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

21 กันยายน 2557 02:36:16 #2

ถึง คุณ 9320a

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 9320a ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 9320a ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

21 กันยายน 2557 04:53:45 #3

ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่ไม่ได้ป้องกันนั้น มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์แน่นอนครับ ซึ่งการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งหากทานถูกต้อง ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

ซึ่งตามประวัติ มีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินซ้ำไปอีกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำนะครับ เพราะ ปกติยานี้จะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และ จะผลข้างเคียงมากได้ ประกอบกับประสิทธิภาพจะไม่ดี และ ก็จะมีเลือดออกผิดปกติมาได้ จนทำให้สับสนได้ว่า เลือดที่ออกมาคืออะไร เช่นในกรณีนี้ครับ ดังนั้น จึงเป็นที่มาว่า การนับวันปลอดภัยในช่วงนี้ ไม่สามารถใช้ได้เลยนะครับ การที่จะใช้วิธีดังกล่าวได้นั้น จะใช้ในคนที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เป็นรอบดี และ ไม่ได้มีผลจากการใช้ยาคุมกำเนิดแบบนี้ครับ

โดยสรุปแล้ว เลือดที่ออกมา เป็นผลจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ และ หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยนะครับ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ โดยในช่วงนี้ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ และ สุดท้ายสิ่งที่หมอฝากได้คือ การป้องกันการตั้งครรภ์นั้น ควรใช้วิธีที่ป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น นอกจากประสิทธิภาพจะต่ำกว่าแล้ว ยังมีผลข้างเคียงมากกว่าอีกด้วยครับ ด้วยความหวังดีครับ