กระดานสุขภาพ
| อาการ แบบนี้ มันปกติรีเปล่าคะ | |
|---|---|
|
5 กันยายน 2557 11:24:56 #1 ขอคำแนะนำจากคุณหมอด้วยค่ะ ประจำเดือนของดิฉันตลอดที่ผ่านมาก็ค่อนข้างจะปกติค่ะ ยกเว้นเมื่อ 2 เดือนก่อน ประจำเดือนขาดไป แล้วก็กลับมาเป้นปกติอีกที แต่มีอาการ เหมือนเลือดออก กระปริด กระปอย หลังประจำเดือนหมด แล้วก็กลับมาสู่ภาวะปกติ แต่ดิฉันก็ไปพบสูตินารีแพทย์ด้วยกลัวหลายๆเรื่อง คุณหมอก้ตรวจดู ปรากฎว่าไม่ท้อง ตรวจมะเร็งปากมดลูกก็ปกติ ที่เลือดออกเพราะประจำเดือนค้าง ( คุณหมอว่างั้น ) คุณหมอจึงให้ทานฮอร์โมน Provera 10 mg มา 12 เม็ด โดยกินวันละเม็ด หลังจากทาน Provera ได้ 8 วัน ปรากฎว่า เลือดออกจากช่องคลอดทุกวัน ( ดิฉันดูจากเคสคนอื่น เค้าว่ากันว่า เลือดจะหยุดไหล ) แต่ทำไมเคสดิฉันถึงกลับกัน ดิฉันจะวิ่งไปที่ รพ. เดิม แต่คุณหมอคนใหม่ คุณหมอก็อัลตร้าซาวน์ ดู ก็ไม่ท้อง แต่รังไข่ฝั่งซ้ายเจอก้อนซีสต์ขนาด 1.5 ซม. อยู่ คุณหมอบอกว่า เป็นซีสจากไข่ ถ้าทานฮอร์โมน มันก็จะหายไปใน 1 เดือน แต่ถ้าไม่ทานก็ อีก 3 เดือนถึงจะสลายไปเอง ดิฉันก็ถามเรื่องเรื่องทำไม เลือดออกกระปริบกระปรอยทุกวันหลังจากทาน Provera คุณหมอคนใหม่ ท่านบอกว่า เพราะฮอร์โมนดิฉันแปรปรวนหนัก ( ธาตุไฟจะเข้าแทรกมั้ย ?? ล้อเล่นค่ะ ) จึงจัดให้ทานยาตัวเดิม แต่เพิ่มไปเป็นวันละ 2 เม็ด กินมาได้อีก 2 วันเลือดก็ยังออกเหมือนเดิมทุกวัน ออกไม่เยอะนะคะ แต่ก้ต้องใส่ผ้าอนามัยอยูดี เพราะผ้าอนามัยแบบแคร์ฟรีเอาไม่อยู่ค่ะ
สรุปว่า นี่มันปกติหรือไม่คะ ดิฉันควรจะต้องทำอย่างไรต่อไปคะ ขอคำแนะนำจากคุณหมอด้วยค่ะ P.S. ดิฉันวางแผน อยากจะมีลูกแล้ว ที่ผ่านมาคุมกำเนิดแบบธรรมชาติค่ะ |
|
| อายุ: 37 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
9 กันยายน 2557 12:40:09 #2 ประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ นอกเหนือจากการตั้งครรภ์ ก็มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องฮอร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งจากที่กล่าวมานั้น ตรวจอัลตราซาวด์แล้วปกติดี และ ไม่มีสาเหตุอื่นๆ ก็จะเข้าได้กับภาวะ DUB (dysfuctional uterine bleeding)ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ตกไข่ ทำให้ประจำเดือนขาดหายไป ต่อมาเมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวมากขึ้น ก็จะทำให้มีเลือดออกมาปริมาณค่อนข้างมากและกะปริดกะปรอยได้มากครับ ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่นั้น ก็จะเป็นการให้ยาฮอร์โมนเข้าไปปรับรอบประจำเดือนครับ ซึ่งปกติแล้ว ในช่วงที่ทานก็จะไม่มีประจำเดือนนะครับ แต่หากเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวมากก็อาจมีกระปริดกะปรอยในช่วงนี้ได้ ซึ่งการเพิ่มปริมาณยาก็เป็นทางหนึ่งครับ ซึ่งคำว่าแปรปรวนหนักนั้น หมอคิดว่า คุณหมอท่านจะหมายถึง เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวมากนั้นเองครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ควรทานยาตัวนี้แบบใช้ปริมาณที่มากขึ้นนี้ไปก่อนนะครับ หมอเห็นด้วยกับการรักษาแบบนี้ ซึ่งเลือดจะค่อยๆออกน้อยลงครับ และ อาจกลับมามีอีกครั้งหลังจากหยุดยาครับ ระหว่างนี้พยายามลดความเสี่ยงต่างๆที่หมอกล่าวไปด้วยนะครับ |
Soda*****9 |
9 กันยายน 2557 14:23:54 #3 ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะ ^^ รู้สึกว่าเลือดมันจะออกน้อยลงแล้วค่ะ |
Soda*****9